เมื่อปัญหาของโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายคุกคามคุณ (เช่น : โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ, โรคเส้นเลือดในสมองตีบ, คลอเรสเตอรอลสูง, ความดันสูง, โรคไขมันเกาะตับ, โรคไขมันเกาะไต, ไขมันในหลอดเลือดสูง, โรคตับ, ตับอักเสบ, ไตอักเสบ, โรคหอบหืด, โรคลมชัก, โรค SLE, โรคไขข้อ, โรค Bechet, โรคผิวหนังอักเสบแพ้ง่าย, โรคไขข้อ, วัยทอง, ปวดประจำเดือน, มีถุงน้ำที่เต้านม รังไข่, มีบุตรยาก, อ้วน, โรคไทยรอยด์, อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า, ต่อมลูกหมากโต, โรคเบาหวาน, เอดส์ (AIDS) หรือ HIV, โรคพุ่มพวง หรือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง, อัมพาต อัมพฤกษ์, โรคเก๊า, โรคสะเก็ดเงิน, โรคเรื้อนกวาง, โรคภูมิแพ้, Sex เสื่อม, หย่อนสมรรถภาพทางเพศ, เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ) เรามีคำตอบให้คุณ ว่าต้องทำอย่างไร จึงจะสามารถอยู่กับโรคเหล่านี้ได้อย่ามีความสุข

Note:
อาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค อาหารเสริมเพียงช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตอยู่กับโรคที่เป็นอยู่ได้อย่างมีความสุข และ มีสุขภาพแข็งแรง

.

.

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

ทำไมถึงนอนไม่หลับ?

การนอนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต คนเราใช้เวลาหนึ่งในสามในการนอนแต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการนอนเท่าใด คนเราจะมีช่วงที่ง่วงนอน 2ช่วงคือกลางคืน และตอนเที่ยงวันจึงไม่แปลกใจกับคำว่าท้องตึงหนังตาหย่อนในตอนเที่ยง

กลไกการนอนหลับ
เมื่อความมืดมาเยือนเซลล์ที่จอภาพ[retina] จะส่งข้อมูลไปยังเซลล์ประสาทที่อยู่ใน hypothalamus ซึ่งจะเป็นที่สร้างสาร melatonin สาร melatonin สร้างจาก tryptophan ทำให้อุณหภูมิลดลงและเกิดอาการง่วง การนอนของคนปกติแบ่งออกได้ดังนี้
  1. การนอนช่วง Non-rapid eye movement {non- (REM) sleep} การนอนในช่วงนี้มีความสำคัญมากเพราะมีส่วนสำคัญในการทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาการและมีการหลั่งของฮอร์โมนที่เร่งการเติบโต growth hormone การนอนช่วงนี้แบ่งออกเป็น 4 ระยะได้แก่โดยการหลับจะเริ่มจากระยะที่1ไปจน REMและกลับมาระยะ1ใหม่
    • Stage 1 (light sleep) ระยะนี้ยังหลับไม่สนิทครึ่งหลับครึ่งตื่น ปลุกง่าย ช่วงนี้อาจจะมีอาการกระตุกของกล้ามเนื้อที่เรียกว่า hypnic myoclonia มักจะตามหลังอาการเหมือนตกที่สูง ระยะนี้ตาจะเคลื่อนไหวช้า
    • Stage 2 (so-called true sleep).ระยะนี้ตาจะหยุดเคลื่อนไหวคลื่นไฟฟ้าสมองเป็นแบบ rapid waves เรียก sleep spindles
    • Stage 3 คลื่นไฟฟ้าสมองจะมีลักษณะ delta waves และ Stage 4ระยะนี้เป็นระยะที่หลับสนิทที่สุดคลื่นไฟฟ้าสมองเป็นแบบ delta waves ทั้งหมด ระยะ3-4 จะปลุกตื่นยากที่สุดตาจะไม่เคลื่อนไหวร่างกายจะไม่เคลื่อนไหว เมื่อปลุกตื่นจะงัวเงีย
  2. การนอนช่วง Rapid eye movement (REM) sleep จะเกิดภายใน 90 นาทีหลังจากนอนช่วงนี้เมื่อทดสอบคลื่นสมองจะเหมือนคนตื่น ผู้ป่วยจะหายใจเร็ว ชีพขจรเร็ว กล้ามเนื้อไม่ขยับ อวัยวะเพศแข็งตัว เมื่อคนตื่นช่วงนี้จะจำความฝันได้
เราจะใช้เวลานอนร้อยละ50ใน Stage 2 ร้อยละ 20ในระยะ REM ร้อยละ30 ในระยะอื่นๆ การนอนหลับครบหนึ่งรอบใช้เวลา 90-110นาที คนปกติต้องการนอนวันละ 8 ชั่วโมงโดยหลับตั้งค่ำจนตื่นในตอนเช้า คนสูงอายุการหลับจะเปลี่ยนไปโดยหลับกลางวันเพิ่มและตื่นกลางคืน จำนวนชั่วโมงในการนอนหลับแต่ละคนจะไม่เหมือนกันบางคนนอนแค่วันละ 5-6 ชั่วโมงโดยที่ไม่มีอาการง่วงนอน

อาการนอนไม่หลับ
อาการนอนไม่หลับไม่ใช่โรคแต่เป็นภาวะหลับไม่พอทำให้ตื่นขึ้นมาแล้วไม่สดชื่น บางคนอาจจะหลับยากใช้เวลามากว่า 30นาทียังไม่หลับ บางคนตื่นบ่อยหลังจากตื่นแล้วหลับยาก บางคนตื่นเช้าเกินไป ทำให้ตื่นแล้วไม่สดชื่น ง่วงเมื่อเวลาทำงาน อาการนอนไม่หลับมักจะเป็นชั่วคราวเมื่อภาวะกระตุ้นหายก็จะกลับเป็นปกติแต่ถ้าหากมีอาการเกิน 1 เดือนให้ถือว่าเป็นอาการเรื้อรัง

การวินิจฉัย
แพทย์จะถามคำถาม 4คำถามได้แก่
  • ให้อธิบายว่ามีปัญหานอนไม่หลับเป็นอย่างไร
  • นอนไม่หลับเป็นมานานเท่าใด
  • เป็นทุกทุกคืนหรือไม่
  • สามารถทำงานตอนกลางวันได้หรือไม่
แพทย์จะค้นหาว่าอาหารนอนไม่หลับนั้นเกิดจากโรค จากยา หรือจากจิตใจ

คนเราต้องการนอนวันละเท่าใด
ความต้องการการนอนไม่เท่ากันในแต่ละคนขึ้นกับอายุ ทารกต้องการนอนวันละ 16 ชั่วโมง วัยรุ่นต้องการวันละ 9 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ต้องการวันละ 7-8 ชั่วโมง แต่คนบางคนก็อาจจะต้องการนอนน้อยเหลือเพียงวันละ 5 ชั่วโมง หากนอนไม่พอร่างกายต้องการการนอนเพิ่มในวันรุ่งขึ้น

เราอาจจะทราบว่านอนไม่พอโดยดูจาก
  • เวลาทำงานคุณมีอาการง่วงหรือซึมตลอดวัน
  • อารมณ์แกว่งโกรธง่ายโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอกับครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงาน
  • หลับภายใน 5 นาทีหลังจากนอน
  • บางคนอาจจะหลับขณะตื่นโดยที่ไม่รู้ตัว
ทั้งหมดเป็นการแสดงว่าคุณนอนไม่พอคุณต้องเพิ่มเวลานอนหรือเพิ่มคุณภาพของการนอน

การนอนหลับจำเป็นอย่างไรต่อร่างกาย
ร่างกายเราเหมือนเครื่องจักรทำงานตลอดเวลาการนอนเหมือนให้เครื่องจักรได้หยุดทำงาน สะสมพลังงานและขับของเสียออก การนอนจึงจำเป็นสำหรับร่างกายมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีการศึกษาว่าการนอนไม่พอจะมีอันตรายการประสานระหว่างมือและตาจะเหมือนกับผู้ที่ได้รับสารพิษ ผู้ที่นอนไม่พอหากดื่มสุราจะทำให้ความสามารถลดลงอ่อนเพลียมาก การดื่มกาแฟก็ไม่สามารถทำให้หายง่วง

มีการทดลองในหนูพบว่าหากนอนไม่พอหนูจะมีอายุสั้น ภูมิคุ้มกันต่ำลง สำหรับคนหากนอนไม่พอจะมีอาการง่วง และไม่มีสมาธิ ความจำไม่ดี ความสามารถในการคำนวณด้อยลง หากยังนอนไม่พอจะมีอาการภาพหลอน อารมณ์จะแกว่ง การนอนไม่พอเป็นสาเหตุของอุบัติต่างๆ เชื่อว่าเซลล์สมองหากไม่ได้นอนจะขาดพลังงานและมีของเสียคั่ง นอกจากนั้นการนอนหลับสนิทจะทำให้มีการหลั่งฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโต (growth hormone)

จะปรึกษาแพทย์เมื่อไร
ถ้าหากอาการนอนไม่หลับเป็นมากกว่า 1 สัปดาห์ หรือทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวลากลางวัน ก่อนพบแพทย์ควรทำตารางสำรวจพฤติกรรมการนอนประมาณ 10 วันเพื่อให้แพทย์วินิจฉัย ในการรักษาแพทย์จะแนะนำเรื่องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการนอน ถ้าไม่ดีจึงจะให้ยานอนหลับ

การนอนหลับอย่างพอเพียงทั้งระยะเวลาและคุณภาพของการนอนหลับจะเป็นปัจจัยในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีเหมือนกับการรับประทานอาหารที่มีคุณภาพและการออกกำลังกาย

การนอนหลับในเด็ก
เด็กทารกจะนอนไม่เป็นเวลา วันหนึ่งจะนอน 16-17 ชั่วโมงแต่ละครั้งจะนอนนาน 1-2 ชั่วโมงจนกระทั้ง 6 เดือน การนอนของเด็กจะเป็นเวลาขึ้น เมื่อเด็กโตขึ้นเด็กจะนอนน้อยลง และนอนนานขึ้น แนวทางที่จะเสนอเป็นแนวทางที่จะทำให้เด็กหลับสบายขึ้นและหลับนานขึ้น
  1. ดูแลเด็กด้วยความนุ่มนวล และเงียบ โดยการให้นมหรือเปลี่ยนผ้าอ้อมให้นุ่มนวลรบกวนเด็กให้น้อยที่สุด และให้เงียบ
  2. พยายามเล่นกับเด็กในเวลากลางวันเพื่อให้เด็กง่วงในเวลากลางคืน
  3. ทันทีที่เด็กง่วงนอนให้นำเด็กเข้านอน อย่าไกวแปลหรืออุ้มจนเด็กหลับ
  4. หลีกเลียงให้เด็กดูดหัวนมปลอมตอนนอน นอกจากเด็กจะติดจริงๆ หลังจากหลับให้เอาหัวนมปลอมออก
  5. เมื่อเด็กร้องอย่ารีบไปดูเด็กเพราะเด็กอาจจะหลับได้อีก ถ้าเด็กไม่หยุดร้องรอ 2-3 นาทีเวลาเข้าไปดูอย่าเปิดไฟ อย่าอุ้ม อย่าไกวเปล ถ้ายังร้องอีกให้ตรวจดูว่าเด็กหิวหรือไม่ เด็กปัสสาวะหรือไม่
  6. เมื่อเด็กอายุได้ 2-3 เดือนควรแยกเตียงนอน เนื่องจากหากเด็กมีพี่ที่ตื่นเด็กจะไม่ยอมนอน
  7. ก่อนเข้านอนให้เด็กสงบโดยการอ่านหนังสือ เล่านิทาน หรือร้องเพลง หรืออาบน้ำอุ่นก่อนนอน
  8. จัดเวลานอนและตื่นให้แน่นอน
  9. อาจจะให้เด็กนำสิ่งที่ชอบไปด้วย เช่นตุ๊กตา ผ้าห่ม หมอนเป็นต้นแต่ต้องระวังอันตรายจากของนั้นด้วย
  10. จักห้องให้เหมาะสม เช่น เย็นพอควร แสงมืดๆ เสื้ออย่าคับเกินไป
  11. อย่าให้เด็กนอนด้วยเนื่องจากเด็กจะปรับตัวนอนคนเดียวได้ยาก
  12. เมื่อเด็กร้องอย่าเข้าไปทันทีทุกครั้ง
    • ให้รอ 1-2 นาทีค่อยตอบเด็ก แล้วค่อยเพิ่มระยะเวลาที่ตอบให้เด็กนอนเอง
    • ให้เด็กมั่นใจว่าว่าแม่ยังอยู่ไม่ได้ทิ้ง
    • หลังจากให้ความมั่นใจเด็กแล้วรีบออกจากห้องให้เด็กหลับเอง
ปัญหาการนอนของเด็ก
การฝันร้าย
ฝันร้ายในเด็กมักจะพบบ่อยในเด็กมักจะเกิดในช่วงที่เด็กหลับสนิทช่วงเวลา 4 -6 นาฬิกา เด็กจะตื่นและมาหาท่านพร้อมทั้งสามารถเล่าความฝันได้ อาจจะฝันเรื่อปีศาจ เด็กจะร้องไห้ หายใจหอบเด็กอาจจะไม่ยอมไปหลับและอาจจะฝันซ้ำๆ อาการฝันร้ายอาจจะเป็นถึงวัยรุ่นจึงหายไป สาเหตุเกิดจากเด็ได้รับความกระทบกระเทือนจากจิตใจ และการเจ็บป่วยทางร่างกาย ถ้าหากการฝันร้ายทำให้เด็กนอนไม่หลับควรที่จะตรวจสอบว่าเด็กมีเรื่องเครียดอะไรบ้าง การฝันร้ายอาจจะทำให้เด็กง่วงในตอนกลางวันควรปรึกษาแพทย์ประจำครอบครัว

ละเมอ
เด็กจะพูดได้ 30 วินาที ความหมายไม่ต่อเนื่อง เด็กจะหายได้เองไมต้องรักษา

เดินละเมอ
อาการจะเกิดหลังจากนอนหลับไป 2-3 ชั่วโมง เด็กจะลุกนั่งและเดินไปมา เด็กอาจจะเดินรอบบ้าน เปิดประตูได้เด็กอาจจะเดินกลับที่นอนแล้วนอนต่อ ถามเด็กตอนเช้าเด็กจะจำเหตุการณ์ไม่ได้ ถ้าหากเกิดเหตุการณ์บ่อยอาจจะต้องป้องกันอุบัติเหตุโดยการเก็บของที่เป็นอันตราย ปิดประตูล็อกกุญแจ อาการนี้จะหายไปเมื่อเป็นวัยรุ่น

วิธีที่จะทำให้นอนหลับสนิทโดยไม่ใช้ยา
เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงเคยประสบการนอนไม่หลับและก่อให้เกิดปัญหา ถ้าเกิดปัญหานอนไม่หลับคุณลองสำรวจเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม การออกกำลังกาย สิ่งแวดล้อมในห้องนอน นิสัยส่วนตัว เมื่อพบว่ามีสิ่งที่ต้องแก้ไขก็ควรรีบแก้ไขเพื่อไม่ให้เป็นโรคเรื้อรัง แนวทางที่จะกล่าวเป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อให้นอนหลับดีขึ้น
  1. อาหารและเครื่องดื่ม
    คนมักจะดื่มหรือกินอาหารโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดตามมา ดื่มกาแฟตอนบ่ายทำให้สมองแล่น ดื่มสุราหรือไวน์ตอนเย็นช่วยเจริญอาหารแต่สิ่งที่ดื่มหรือกินอาจจะส่งผลต่อการนอนหลับ
    • กาแฟอินซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของกาแฟ น้ำชา น้ำอัดลม chocolate ออกฤทธิ์โดยการกระตุ้นสมองให้ตื่น การออกฤทธิ์ของกาแฟอาจจะนานถึง 12 ชั่วโมงดังนั้นเมื่อดื่มกลางวันอาจจะส่งผลถึงการนอนในเวลากลางคืน การตอบสนองต่อกาแฟสำหรับผู้ป่วยแต่ละคนไม่เหมือนกันคนที่ดื่มมากจะไม่ค่อยมีผลส่วนคนที่ไม่เคยดื่มอาจจะทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ คุณสามารถทดสอบว่ากาแฟมีผลต่อการนอนหรือไม่โดยการงดกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟอิน 2-3 สัปดาห์แล้วดูผลต่อการนอนหลับว่าดีขึ้นหรือไม่
    • แอลกอฮอล์จะมีฤทธิ์กดการทำงานของสมองทำให้หลับง่าย แต่แอลกอฮอล์ก็ทำให้ตื่นกลางคืนบ่อยคุณภาพในการนอนไม่ดี ให้หยุดดื่มสักระยะหนึ่งเพื่อดูว่าการหลับดีขึ้นหรือไม่
    • อาหารที่รับประทานก็อาจจะมีผลต่อการนอนหลับ การรับประทานอาหารเผ็ดหรือรสจัด หรือปริมาณมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดอาการแน่นท้องเวลานอนโดยเฉพาะเวลานอนราบจะทำให้อากรแน่นท้องเป็นมากขึ้นดังนั้นควรหลีกเลี่ยงปัจจัยดังกล่าว
    • หลีกเลี่ยงยาที่อาจจะทำให้นอนไม่หลับ
    ปริมาณน้ำที่ดื่มก่อนนอนก็ไม่ควรมากเกินไปเพราะจะทำให้ปัสสาวะบ่อบรบกวนการนอนหลับ
    ข้อแนะนำ
    • อย่ารับประทานหรือดื่มมากเกินไปเมื่อเวลาใกล้นอน หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ด
    • รับประทานของว่างเล็กน้อยก่อนนอนถ้ามีโรคกระเพาะอาหารเพื่อป้องกันอาการปวดท้อง
  2. หลีกเลี่ยงบุหรี่
    การสูบบุหรี่จะทำให้หลับยาก ตื่นบ่อย และฝันร้าย เนื่องจากผลของ nicotin เมื่อหยุดสูบบุหรี่ใหม่ๆอาจจะมีปัญหาในการหลับ แต่เมื่อหยุดบุหรี่ได้ก็จะหลับดีขึ้นและสุขภาพดีขึ้น
  3. การออกกำลังกาย
    หากเปลี่ยนการดื่มกาแฟตอนบ่ายให้เป็นการออกกำลังกายในตอนบ่ายแทน เช่นการเดินเร็วๆ การวิ่ง หรือการขี่จักรยาน รวมทั้งการออกกำลังแบบ aerobic และการยกน้ำหนัก การออกกำลังในช่วงดังกล่าวจะทำให้นอนหลับง่ายขึ้นใช้เวลาน้อยในการเริ่มหลับ การหลับมีคุณภาพดีขึ้นคือหลับได้สนิทเพิ่มขึ้น
    ไม่ควรออกกำลังกายก่อนนอน3ชั่วโมงเพราะการออกกำลังจะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นและร่างกายตื่นตัวทำให้หลับยาก
  4. ห้องนอนกับการนอนหลับ
    • อุณหภูมิในห้องนอนต้องเย็นคุณผู้อ่านต้องปรับอุณหภูมิห้องให้พอเหมาะกับตัวเองและคนรอบข้างเพราะหากร้อนเกินไปหรือหนาวเกินไปก็มีผลต่อการนอน ทำให้ตื่นบ่อย หลับไม่สนิท และอุณหภูมิห้องควรจะเย็นเล็กน้อยเหมือนกับตอนที่ร่างกายกำลังหลับสนิท หากห้องที่นอนมีความชื้นน้อย(เช้าตื่นมามีอาการ แสบคอ แห้งในรูจมูก เลือดกำเดาไหล)ก็หาเครื่องให้ความชื้นติดไว้ในห้องนอน
    • แสงสว่างในห้องนอน แทบไม่น่าเชื่อว่าแสงสว่างจากดวงอาทิตย์และแสงสว่างมีผลต่อการนอนของคนเรา การที่ไม่ได้ถูกแสงแดดก็ทำให้การนอนหลับไม่มีคุณภาพ ตื่นเร็ว ทั้งนี้เป็นผลจากที่แสงจ้าหรือแสงแดดจะกระตุ้นนาฬิกาชีวิตให้ทำงานคือนอนเป็นเวลา ตื่นเป็นเวลา หรือหิวเป็นเวลา คนที่ไม่ได้ถูกแสงแดดหรือแสงจ้าทำให้นาฬิกาชีวิตทำงานบกพร่อง คนที่ไม่ได้เจอแสงและหลับไม่ดีลองไปสัมผัสแสงตอนสายๆหรือแสงจากไฟจ้าๆสักสองชั่วโมงจะทำให้การหลับดีขึ้น ห้องที่นอนก็ควรจะมืดๆเพื่อทำให้การหลับดีขึ้น
    • ห้องนอนต้องเงียบ ในช่วงแห่งความรักเมื่อได้ยินเสียงฝนตก เสียงลมก็จะมีความสุขคิดถึงคนรัก คิดถึงความสุขที่ผ่านมา มีความสุขกับเสียงลมเสียงฝน แต่คนที่นอนหลับยากจะรู้สึกรำคาญแม้กระทั่งเสียงฝนหล่นใส่หลังคา เสียงสุนัขเห่า คุณผู้อ่านคงเคยได้ยินคนฆ่ากันเพราะเสียงสุนัขเห่ารบกวนเวลานอน บางคนนอนไม่หลับเพราะเสียงกรนของคนข้างๆก็มี จะเห็นได้ว่าเสียงก็มีส่วนสำคัญในการนอน เสียงบางอย่างเราก็สามารถควบคุมได้ เช่นเสียงจากวิทยุ ทีวีภายในบ้านแต่บางอย่างก็ควบ คุมไม่ได้ เช่นเสียงฟ้าร้อง เสียงเครื่องบิน รถไฟ คุณอาจจะอุปกรณ์ป้องกันเสียง เช่นที่อุดหู ห้องติดเครื่องปรับอากาศ ใช้วัสดุกันเสียงเป็นต้น
    • ที่นอนต้องเหมาะสม ไม่แข็งเกินไปไม่นุ่มเกินไป เช้าตื่นมาต้องไม่มีอาการปวดหลัง หากมีอาการปวดหลังแสดงว่าที่นอนไม่เหมาะสมหรือนอนไม่ถูกท่า
    • ห้องต้องปลอดฝุ่น ควรจะจัดห้องไม่ให้มีฝุ่นหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคหอบหืด
  5. การอาบน้ำอุ่นหรือแช่น้ำอุ่น
    การอาบน้ำอุ่นหรือแช่น้ำอุ่นทำให้การหลับดีขึ้นอาจจะเนื่องจากเมื่ออกจากน้ำอุ่นทำให้อุณหภูมิลดลงส่งสัญญาณว่าถึงเวลานอน ดังนั้นการอาบน้ำอุ่นก่อนนอนจะช่วยให้หลับดีขึ้น
  6. การใช้เตียงนอน
    หลายคนจะสามารถหลับได้บนเก้าอี้หรือโซฟาแต่เมื่อนอนบนเตียงนอนกลับไม่สามารถนอนหลับทำไมเป็นเช่นนั้น เพราะหลายคนใช้เตียงไปทำจุดประสงค์อื่น เช่นทำงาน ดูทีวี นอนอ่านหนังสือ รับประทานอาหาร สิ่งเหล่ากระตุ้นให้เราตื่น เมื่อขึ้นเตียงจึงทำให้เราตื่นต้องเลิกพฤติกรรมเหล่านั้นมีข้อแนะนำสำหรับการใช้เตียงสำหรับไปปฏิบัติ
    • ใช้เตียงสำหรับการนอนหรือการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้นห้ามใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น
    • ให้ขึ้นไปนอนเมื่อง่วงแล้วหรือถึงเวลาที่นอน
    • เมื่อนอนไปแล้ว 15 นาทีถ้ายังไม่หลับให้ลุกขึ้นทำอย่างอื่นที่ผ่อนคลาย เช่นอาบน้ำอุ่น ดื่มนมอุ่นๆ 1 แก้ว หากง่วงก็กลับไปนอนใหม่
    • ขณะนอนไม่ต้องสนใจหรือกังวลเรื่องนอนไม่หลับ บอกตัวเองว่าอาการนอนไม่หลับเป็นเพียงชั่วคราว
    • เวลานอนให้คิดแต่เรื่องผ่อนคลาย
    • เมื่อตื่นนอนแล้วก็ให้ลุกจากเตียง อย่านอนเล่น
    • บางคนกังวลเรื่องนอนไม่หลับกลัวนอนน้อยทำให้ต้องดูนาฬิกาปลุก วิธีแก้ให้ตั้งนาฬิกาปลุกแล้วนำนาฬิกาไปที่ลับตา
    • ถ้าหากท่านต้องการหลับในเวลากลางคืนท่านต้องไม่งีบหลับในเวลากลางวันเพราะจะทำให้กลางคืนหลับได้น้อย สำหรับผู้ที่ขับรถทางไกลควรงีบหลับสัก 20-30นาที
ข้อสรุปของการนอนหลับที่ดี
  1. หลีกเลี่ยงกาแฟและแอลกอฮอล์
  2. ดื่มน้ำให้น้อยก่อนนอน
  3. หลีกเลี่ยงอาหารหนักและอาหารรสจัดก่อนนอน
  4. หลีกเลี่ยงบุหรี่
  5. ออกกำลังกายเป็นประจำโดยเฉพาะเวลาบ่ายทำให้หลับได้ดี
  6. อาบน้ำอุ่นก่อนนอน
  7. กำหนดเวลานอนและเวลาตื่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

.

.