เมื่อปัญหาของโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายคุกคามคุณ (เช่น : โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ, โรคเส้นเลือดในสมองตีบ, คลอเรสเตอรอลสูง, ความดันสูง, โรคไขมันเกาะตับ, โรคไขมันเกาะไต, ไขมันในหลอดเลือดสูง, โรคตับ, ตับอักเสบ, ไตอักเสบ, โรคหอบหืด, โรคลมชัก, โรค SLE, โรคไขข้อ, โรค Bechet, โรคผิวหนังอักเสบแพ้ง่าย, โรคไขข้อ, วัยทอง, ปวดประจำเดือน, มีถุงน้ำที่เต้านม รังไข่, มีบุตรยาก, อ้วน, โรคไทยรอยด์, อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า, ต่อมลูกหมากโต, โรคเบาหวาน, เอดส์ (AIDS) หรือ HIV, โรคพุ่มพวง หรือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง, อัมพาต อัมพฤกษ์, โรคเก๊า, โรคสะเก็ดเงิน, โรคเรื้อนกวาง, โรคภูมิแพ้, Sex เสื่อม, หย่อนสมรรถภาพทางเพศ, เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ) เรามีคำตอบให้คุณ ว่าต้องทำอย่างไร จึงจะสามารถอยู่กับโรคเหล่านี้ได้อย่ามีความสุข

Note:
อาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค อาหารเสริมเพียงช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตอยู่กับโรคที่เป็นอยู่ได้อย่างมีความสุข และ มีสุขภาพแข็งแรง

.

.
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Pharmanex แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Pharmanex แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

แคลซิมอร์ (CalciMor) คืออะไร

แคลซิมอร์ (CalciMor) เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ครบถ้วนด้วยสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ซึ่งได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินดี วิตามินเค ทองแดง ซิลิคอนและสังกะสี

ประโยชน์ที่ได้รับ
ให้สารอาหารที่จำเป็นสำหรับเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง

ส่วนประกอบ
  • วิตามิน ดี
  • วิตามิน เค
  • แคลเซียมซิเตรต
  • ไตรแคลเซียมฟอสเฟต
  • แมกนีเซียม ออกไซด์
  • แมกนีเซียม ซิเตรต
  • สังกะสี
  • ทองแดง
  • ซิลิคอน
ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์
  • ขนาดเล็ก ทานง่าย ดูดซึมได้สมบูรณ์
  • แคลเซียม 2 รูป (ซิเตรท, ฟอทเฟต) ดูดซึมง่ายกว่าทั่วไป (คาร์บอเนต)
  • มีวิตามิน และ แร่ธาตุอื่นๆ ที่จำเป็นต่อกระดูกครบถ้วน
    • วิตามิน ดี ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
    • แมกนีเซียมในสัดส่วนที่เหมาะสม (แคลเซียม : แมกนีเซียม = 2 : 1)
    • วิตามินเค สังกะสี ทองแดง ซิลิกอน ฟอสฟอรัส
  • ไม่มีน้ำตาล แลคโตส เกลือโซเดียม ก๊าซ สารจากข้าวสาลี หรือ นม จึงปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการแพ้
  • แตกตัวได้สมบูรณ์ในเวลา 45 นาทีในภาวะจำลองของกระเพาะอาหารตามมาตรฐานยา
ผลประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ (อ้างอิงจากการศึกษาคุณประโยชน์ของสารอาหารสำคัญ)
  • บำรุงกระดูกให้แข็งแรง ลดภาวะกระดูกพรุน โดยเฉพาะในวัยทอง และ ผู้ใช้ยาสเตียรอยด์
  • ผลดีอื่นๆ เช่น แคลเซียม และ วิตามินดี อาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม ช่วยป้องกันน้ำหนักเพิ่มขึ้น จำเป็นต่อกล้ามเนื้อ สารสื่อประสาท การแข็งตัวของเลือด ป้องกันการเกิดตะคริว

โคคิวเท็น (CoQ10) คืออะไร?


โคเอ็นไซม์คิวเทน (CoQ10) ที่ผ่านขบวนการผลิตเทคโนโลยีสิทธิบัตรเฉพาะ เพื่อให้ส่งผ่านโคเอ็นไซม์คิวเทนเข้าสู่ร่างกายและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลิตภัณฑ์โคเอ็นไซม์คิว 10 ที่ดีเลือกอย่างไร?
ควรเลือกผลิตภัณฑ์ โคเอ็นไซม์คิว 10 (CoQ10) ที่มีขั้นตอนการบรรจุ ที่ใช้เทคโนโลยีการบรรจุในแคปซูล (Encapsulation Technology) เพื่อที่จะห่อหุ้มโมเลกุล ของโคเอ็นไซม์คิว 10 (CoQ10) ในวงแหวนของโมเลกุลคาร์โบไฮเดรต ทำให้การกระจายตัวของโคเอ็นไซม์คิว 10 (CoQ10) ในลำไส้ดีขึ้น รวมทั้งการดูดซึมของสารอาหารสำคัญเข้าสู่ร่างกายดีขึ้นด้วย

โคเอ็นไซม์คิว 10 (CoQ10) ช่วยในเรื่องของการผลิตพลังงาน ระดับเซลล์เพื่อส่งเสริมการทำงานของอวัยวะ ต่าง ๆ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอวัยวะที่ต้องทำงานหนักได้แก่ กล้ามเนื้อหัวใจ
โคเอ็นไซม์คิว 10 (CoQ10) พบได้ในบริเวณเยื่อหุ้มเซลทั้งหมด นิวเคลียส และ ไมโตครอนเดรียของเซลล์ ระดับของโคเอ็นไซม์คิวเท็น จะอยู่ในระดับที่สูงที่สุดเมื่ออายุ 20 ปี หลังจากนั้นก็จะลดลงตามจำนวนอายุที่เพิ่มขึ้น
ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์
  • ใช้นาโนเทคโนโลยี ทำให้มีความคงตัวสูง
  • ละลายน้ำ และ ดูดซึมดีกว่ารูปทั่วไป 5 - 10 เท่า (ในท้องตลาดโคคิวเท็น (CoQ10) ละลายในน้ำมัน)
  • 29 มก. ของโคคิวเท็น จึงอาจมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ 150 - 300 มก. ของรูปแบบทั่วไป
ผลประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ (อ้างอิงจากการศึกษาคุณประโยชน์ของสารอาหารสำคัญ)
  • ให้พลังงานกับเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ
  • มีผลดีต่อการลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
  • ช่วยให้หัวใจบีบตัวดีขึ้น มีผลดีต่อโรคหัวใจ และ ช่วยลดความดันโลหิต
  • ปกป้องผิวจากริ้วรอย และ แสงแดด
  • มีผลดีต่อสมอง และ ภาวะความผิดปรกติของสมอง เช่น อัลไซเมอร์ พาร์คินสัน ความจำเสื่อม เป็นต้น
  • บำรุงสุขภาพฟันและเหงือก

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

คอร์ดีแม็กซ์ ซีเอส - 4 (CordyMax CS-4) คืออะไร?

คอร์ดีแม็กซ์ซีเอส - 4 (CordyMaxCS-4) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากธรรมชาติ จากเห็ดคอร์ดีเซพ ไซเนนซิส ที่ชาวจีนรู้จักกันดีในชื่อ จิ้น ชุย เปา หรือ ถั่งเช่า ตามธรรมชาติ จะพบได้บนเทือกเขาสูงที่มีอากาศหนาวจัด ต้องใช้เวลา 5 - 7 ปีกว่าจะโตเต็มที่ สามารถนำมารับประทานได้ ฟาร์มาเน็กซ์ (Pharmanex) ร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์ชาวจีน และ มหาวิทยาลัยในประเทศจีนค้นคว้าเพื่อหาสายพันธุ์เชื้อรา ที่เหมาะสมในการบ่มเพาะเห็ดคอร์ดีเซพ จากการศึกษา 15 ปีจากกว่า 200 สายพันธุ์ จนค้นพบเชื้อราสายพันธุ์ ซีเอส - 4 ที่ใช้เพาะเห็ดคอร์ดีเซพ ไซเนนซิสที่มีคุณสมบัติเหมือนเห็ด ที่เกิดเองตามธรรมชาติ ฟาร์มาเน็กซ์ (Pharmanex) ได้รับสิทธิบัตรจากรัฐบาลจีนให้มีสิทธิ์จำหน่าย คอร์ดีเซพ ไซเนนซิส ซีเอส - 4 นอกประเทศจีนเพียงผู้เดียว

ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์
  • CS-4 เป็นสายพันธุ์ ของเห็ดถั่งเช่าที่ดีที่สุด (ใกล้เคียงธรรมชาติ ให้สารสำคัญสูงสุด) คัดเลือกมาจากกว่า 200 สายพันธุ์ วิจัยร่วมกันระหว่าง รัฐบาลจีน และ สถาบันฟาร์มาเน็กซ์ (Pharmanex) นานกว่า 15 ปี
  • ฟาร์มาเน็กซ์ (Pharmanex) ได้รับเอกสิทธิ์ในการจำหน่าย จากประเทศจีนเพียงผู้เดียว
  • สารสำคัญสูงสุดตามเกณฑ์สากล (อะดีโนซีน > 0.14% และ แมนนิทอล > 5%)
  • เพาะปลูกโดยปราศจากสารปนเปื้อน เก็บเกี่ยวช่วงอายุ 5 - 7 ปี (โตเต็มที่)
  • มีการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ผลิตภัณฑ์
  • รางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมจากรัฐบาลได้หวัน
  • อยู่ในตำรายา PDR (Physicians' Desk Reference)
  • เห็นถั่งเช่า เป็นสมุนไพรที่สงวนให้สำหรับจักรพรรดิ์จีนในสมัยโบราน มีมูลค่าแพงกว่าทองคำ

ผลประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ (อ้างอิงจากการศึกษาคุณประโยชน์ของสารอาหารสำคัญ)
  • บำรุงไต มีผลดีต่อภาวะไตอักเสบ และ โรคไตวายเรื้อรัง
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด มีผลดีต่อภาวะหลอดลมอักเสบ และ โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังจากการสูบบุหรี่
  • ต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันภาวะผนังหลอดเลือดแข็งตัว และ อุดตัน
  • มีผลดีต่อการลดระดับน้ำตาล และ ไขมันในเลือด
  • ช่วยปรับสมดุลต่อภาวะฮอร์โมนเพศหญิงที่ผิดปรกติ ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย
  • ส่งเสริมสุขภาพภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
  • มีผลต่อการทำงานของตับ
  • ช่วยลดความเมื่อยล้า ปวดเมื่อย ภาวะนอนหลับยาก

วันเสาร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2556

ทีกรีน97 (Tegreen97) คืออะไร?


ผลิตภัณฑ์สารสกัดจากชาเขียวจากแหล่งใบชาเขียวที่ดีที่สุดในมณฑลเจ๋อเจียง ประเทศจีน ใช้วิธีการเก็บและสกัดที่เฉพาะเพื่อให้ได้สารสำคัญ-โพลีฟีนอลในปริมาณสูง ที่สุดถึง 97% และปราศจากคาเฟอีน
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
  1. เสริมการทำงานของระบบต่อต้านอนุมูลอิสระของร่างกาย 
  2. ปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์และสารพันธุกรรมของเซลล์ จากการทำลายของอนุมูลอิสระ
ส่วนประกอบสำคัญ 
  • ชาเขียวสกัด 250 มิลลิกรัม ( โพลีฟีนอล 97%)
ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์
  • คัดเลือกจากแหล่งชาอันดับหนึ่งของจีน ที่มณฑลเจ้อเจียง
  • สารสำคัญ "โพลีฟีนอล" สูงที่สุด 97% (ผลิตภัณฑ์ทั่วไปในท้องตลาดสกัดได้เพียง 50 - 65%)
  • ปราศจากคาเฟอีน จึงดีต่อสุขภาพ ต่างจากชาชงทั่วไป
  • ใน 1 แคปซูล ให้สารสำคัญเท่ากับชาเขียว 7 ถ้วย
  • มีการศึกษาทางคลินิก โดยใช้ผลิตภัณฑ์ (รวมถึงฤทธิ์ในการต้านเซลล์มะเร็ง)
  • รางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมจากรัฐบาลใต้หวัน อยู่ในตำรา PDR (Physicians' Desk Referance)
ผลประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ (อ้างอิงจากการศึกษาคุณประโยชน์ของสารอาหารสำคัญ)
  • ต่อต้านการเกิด และ ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง
  • ส่งเสริมสุขภาพระบบภูมิคุ้มกัน
  • ปกป้อง และ ส่งเสริมการทำงานของเซลล์ตับในการกำจัดสารพิษ
  • ส่งเสริมการเผาผลาญน้ำตาล และ ไขมันจากหลอดเลือด
  • ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
  • บำรุงสุขภาพผิว ส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน และ อิลาสติน
  • มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง (สูงกว่า วิตามิน E 25 เท่า, วิตามิน C 100 เท่า)
  • ส่งเสริมความจำ และ การทำงานของสมอง
  • ส่งเสริมการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย มีผลดีในการควบคุมน้ำหนัก
  • อื่นๆ เช่น่ ทำลายสารพิษในลำใส้ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ส่งเสริมสุขภาพฟัน และ เหงือก เป็นต้น

วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556

มารีน โอเมก้า (Marine Omega) คืออะไร?

มารีนโอเมก้า (Marine Omega) เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาและน้ำมันคริลล์ ที่ให้กรดไขมันโอเมก้า – 3 ช่วยให้ร่างกายได้รับกรดไขมันจำเป็นอย่างสมดุล
คริลล์ (ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Euphasia pacifica) เป็นสัตว์ทะเลรูปร่างคล้ายกุ้ง พบในมหาสมุทรแถบฝั่งตะวันตกของเกาะแวนคูเวอร์ แถบรัสเซีย แถบยูเครน แถบแอนตาร์คติกา และญี่ปุ่น น้ำมันคริลล์มีความโดดเด่นของส่วนประกอบที่มีอีพีเอและดีเอชเอในสัดส่วนสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระเช่น วิตามิน เอ อี และแอสทาแซนธิน รวมทั้งมีน้ำมันโอเมก้า – 3 และโอเมก้า – 9 (กรด โอเลอิค) สัดส่วนของโอเมก้า – 3 ต่อโอเมก้า – 6 ที่ได้จากน้ำมันคริลล์มีสัดส่วนที่สูงคือ 15:1 และยังมีสารฟลาโวนอยด์, แคโรทีนอยด์ ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมุลอิสระที่ประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามิน อีถึง 550 เท่า
ประโยชน์ต่อสุขภาพ 
  1. เพื่อการตอบสนองของระบบภูมิต้านทานที่ปกติ 
  2. ลดการเกิดการอักเสบ 
  3. ส่งเสริมสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด 
  4. ส่งเสริมการทำงานของสมองและสุขภาพของสมอง 
  5. ส่งเสริมการทำงานการเคลื่อนไหวของข้อ 
  6. ส่งเสริมสุขภาพของผิวหนัง
ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์
  • น้ำมันปลาคุณภาพสูง โดดเด่นด้วยการเพิ่มน้ำมันคริลล์
  • อยู่ในตำรายา PDR (Physicians' Desk Reference)
  • ให้โอเมก้า - 3 โดยมี EPA : DHA = 3 : 2  (อัตราส่วนเหมาะสม)
  • ปลาทะเลน้ำลึกคุณภาพ 4 ชนิด ปราศจากโลหะหนัก และ สารปนเปื้อน
  • เลมอนออยล์ ช่วยดับกลิ่นคาวของน้ำมันปลา
  • น้ำมันคริลล์
    • สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพมากกว่าวิตามิน อี 550 เท่า (แอสต้าแซนทีน และ ฟลาโวนอยด์)
    • สารสำคัญช่วยปกป้องเซลล์ บำรุงระบบประสาทและสมอง (ฟอสโฟไลปิคสูง)
ผลประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ (อ้างอิงจากการศึกษาคุณประโยชน์ของสารอาหารสำคัญ)
  • ช่วยลดระดับไขมันในเลือด เพิ่มระดับไขมันตัวดี (HDL)
  • ช่วยลดการอักเสบของทุกเนื้อเยื่อในร่างกาย (ลดไฟอักเสบ) บรรเทาอาการปวดประจำเดือน
  • ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนัง และ เยื่อบุตา
  • ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ลดความเสี่ยงการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ และ หลอดเลือดได้กว่า 90%
  • ส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
  • บำรุงเซลล์สมอง ความจำ และ ระบบประสาท
  • สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันคริลล์ ช่วยต่อต้านความเสื่อมชราของทุกอวัยวะจากการทำลาย ของอนุมูลอิสระ

วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556

ออพติมา โอเมก้า (Optima Omega) คืออะไร?


ออพติมา โอเมก้า (Optima Omega) เป็นแหล่งสำคัญของกรดไขมันโอเมก้า - 3 ที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ อีพีเอ และดีเอชเอ ที่ได้จากปลาทะเลน้ำลึก 4 ชนิด ( ปลาแซลมอน, ปลาซาร์ดีน, ปลาแมคเคอเรล,ปลาแอนโชวี) ช่วยให้ร่างกายได้รับกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า - 3 อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ยังประกอบด้วยกระเทียมสกัด

ประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • เสริมกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า - 3 เพื่อให้ร่างกายได้รับกรดไขมันโอเมก้า-3อย่างเพียงพอและสมดุล
ส่วนประกอบสำคัญ
  • น้ำมันปลา ( อีพีเอ 150 มิลลิกรัม,ดีเอชเอ 100 มิลลิกรัม) 
  • กระเทียมสกัด 
  • วิตามิน อี
ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์
  • น้ำมันปลาคุณภาพสูง โดดเด่นด้วยการเพิ่มสารสกัดจากกระเทียม
  • ให้โอเมก้า - 3 โดยมี EPA : DHA =3 : 2 (อัตราส่วนที่เหมาะสม)
  • ปลาทะเลน้ำลึกคุณภาพ 4 ชนิดปราศจากโลหะหนัก และ สารปนเปื้อน
  • เลมอนออยล์ ช่วยดับกลิ่นคาวของน้ำมันปลา
  • รางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมจากรัฐบาลไต้หวัน
  • น้ำมันกระเทียม
"มีผลดีในการลดระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด ช่วยป้องกันหลอดเลือดอุดตัน"

ผลประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ (อ้างอิงจากการศึกษาคุณประโยชน์ของสารอาหารสำคัญ)
  • ช่วยลดระดับไขมันในเลือด เพิ่มระดับไขมันตัวดี (HDL)
  • ช่วยลดการอักเสบของทุกเนื้อเยื่อในร่างกาย (ลดไฟอักเสบ) บรรเทาอาการปวดประจำเดือน
  • ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนัง และ เยื่อบุตา
  • ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ และ หลอดเลือดได้มากกว่า 90%
  • ส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
  • บำรุงเซลล์สมอง ความจำ และ ระบบประสาท
  • น้ำมันกระเทียมยังมีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อโรค และ การกลายพันธุ์ของเซลล์

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ริชิเอ็มเอ็กซ์ (ReishiMx) คืออะไร?



  1. รายละเอียดทั่วไป
    ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์
    • ประกอบด้วยตัวเห็ด และ สปอร์เห็ด ที่ให้สารสำคัญสูงกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป
    • สปอร์เห็ดแตก 100% ด้วยเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะ
    • เพาะบนขอนไม้ที่เลียนแบบธรรมชาติ จึงปราศจากสารปนเปื้อน
    • กระบวนการสกัดลิขสิทธิ์ ช่วยให้สกัดได้สารสำคัญคงอยู่ในปริมาณสูง
    • ละลายน้ำ และ ออกฤทธิ์ได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป
    • มีการศึกษาทางคลินิกโดยใช้ผลิตภัณฑ์ มากกว่า 10 ฉบับ (รวมถึงฤทธิ์ในการต้านเซลล์มะเร็ง)
    • รางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมจากรัฐบาลไต้หวัน
    • อยู่ในตำรายา PDR (Physicians' Desk Reference)
    สารสำคัญที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าให้ประโยชน์ต่อสุขภาพที่สกัดได้จากเห็ดหลินจือได้แก่
    • โพลีแซคคาไรด์ : เห็ดหลินจือให้สารโพลีแซคคาไรด์ที่หลากหลายทำหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพต่างๆกัน
    • ไตรเทอร์ปีน : มีฤทธิ์ช่วยปกป้องตับซึ่งในเห็นหลินจือมีไตรเทอร์ปีนอยู่มากกว่า 200 ชนิด
    • นิวคลีโอไซด์ : มีอะดีโนซีนช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด
    • สารประกอบอื่นๆ : มีวิตามิน เกลือแร่ และ กรดอะมีโน ซึ่งกรดอะมีโนที่ได้นั้น ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้
  2. ผลประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ (อ้างอิงจากการศึกษาคุณประโยชน์ของสารอาหารสำคัญ)
    • ต่อต้านเซลล์มะเร็ง โดยยับยั้งการก่อตัว การแบ่งตัว และ การลุกลามของเซล์มะเร็ง
    • กระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวและระบบภูมิคุ้มกัน
    • ปกป้องและฟื้นฟูตับและไต
    • มีผลดีต่อโรคภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่นโรคข้อรูมาตอยด์ โรคเอสแอลอี โรคหืด และ ภูมิแพ้เป็นต้น
    • รักษาระดับน้ำตาลในเลือด รักษาความดันโลหิตให้เป็นปกติ
    • ส่งเสริมพลังงานของร่างกาย ลดความอ่อนเพลีย บำรุงสุขภาพโดยรวมที่ดี
    • บรรเทาอาการนอนไม่หลับ อาการปวดหัว ไมเกรน
    • มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
    • อื่นๆ เช่น มีผลดีต่อภาวะชัก โรคกระเพาะอาหาร ท้องผูก ริดสีดวงทวาร รอบเดือนผิดปรกติ เป็นต้น
  3. กระบวนการสกัดของ นูสกิน ที่แตกต่าง
    บริษัทฟาร์มาเน็กใช้วิธีสกัดสารสำคัญจากสปอร์ของเห็ดหลินจือ เพราะสปอร์ของเห็ดหลินจือ เป็นแหล่งที่มีสารโพลีแซคคาไรด์ และ ไตรเทอร์ปี อยู่มากที่สุด สารโพลีแซคคาไรด์ มีรูปร่างลักษณะเหมือนกับไข่ และ มีเปลือกแข็งมาก ซึ่งทำให้การสกัดสารโพลีแซคคาไรด์ และ ไตรเทอร์ปีน ทำได้ยาก
    บริษัท ฟาร์มาเน็ก ได้ใช้วิธีการสกัดหลายขั้นตอน เพื่อให้สารสำคัญที่ได้มีความเข้มข้นสูง ซึ่งส่วนใหญ่สารสกัดที่ได้จากเห็นหลินจือ นั้น จะสกัดเพียงครั้งเดียว ทำให้ได้สารสำคัญที่น้อย บางครั้งไม่สามารถสกัดไตรเทอร์ปีนได้ นอกจากนี้ ฟาร์มาเน็ก ยังได้ใช้ เทคโนโลยีเฉพาะของบริษัท ในการทำให้เปลือกของสปอร์แตกออก ทำให้สกัดสารสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. ความปลอดภัยของผลิตภัณธ์ ซึ่ง ฟาร์มาเน็กซ์ใช้มาตรฐาน 6S ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
    • การคัดเลือก (Selection) : พืชสมุนไพรที่ฟาร์มาเน็กซ์เลือกใช้ จะต้องผ่านการตรวจสอบในด้านเป็นของแท้ นำไปใช้ประโยชน์ได้ และ มีความปลอดภัยในการใช้
    • การหาแหล่งวัตถุดิบ (Sourcing) : นักวิทยาศาสตร์ของฟาร์มาเน็กซ์ จะต้องตรวจสอบหาแหล่งของพืช รวมถึงพิจารณาคุณภาพของวัตถุดิบ แล้วทำการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ซึ่งจะทดสอบพืชดังกล่าว ณ สถานที่ที่ได้คัดเลือกไว้
    • การวิเคราะห์ทางโครงสร้างสารประกอบ (Structure) : ฟาร์มาเน็กซ์ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัย และ สถาบันวิจัยที่มีชื่อเสียง ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา และ จีน ทำการวิเคราะห์หาโครงสร้าง ของสารประกอบธรรมชาติที่มีอยู่ในพืชที่คัดเลือกไว้ และ วิเคราะห์หาโครงสร้างของสารประกอบหลักที่ออกฤทธิ์ของพืชอย่างละเอียดถี่ถ้วน
    • การเข้มงวดด้านมาตรฐานของการผลิต (Standardization) : ฟาร์มาเน็กซ์คิดค้นขบวนการในการทำให้สารสำคัญเกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้การควบคุมคุณภาพมาตรฐานอย่างเข้มงวด และ พัฒนาขบวนการที่ช่วยเพิ่มความถูกต้องและ สามารถรับรองได้ว่าแต่ละผลิตภัณฑ์ ของฟาร์มาเน็กซ์ นั้นมีประสิทธิภาพจริง
    • ความปลอดภัยในการบริโภค (Safety) : ฟาร์มาเน็กซ์ เป็นผู้นำในด้านการกำหนดมาตรฐานที่เข้มงวด เพื่อรับรองถึงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้น โดยมีการตรวจสอบหาเชื้อ (Microbial Test) สารเคมี (Chemical) สารพิษ (Toxin) และ โลหะหนัก ที่มีอยู่ในแต่ละผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์ และ ความปลอดภัยสูงสุดจากผลิตภัณฑ์ของฟาร์มาเน็กซ์
    • มีหลักฐานและผลการศึกษาทางคลีนิคสนับสนุน (Substantiation) : ฟาร์มาเน็กซ์พัฒนาทุกผลิตภัณฑ์ บนพื้นฐานของข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และ การศึกษาทางคลินิก รวมทั้งสนับสนุนการวิจัยผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดอย่างจริงจัง ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการศึกษาเหล่านี้ได้รับการยอมรับ และ ตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำต่างๆเสมอ

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

แคลซิมอร์ (CalciMor) คืออะไร

CalciMor คือแคลเซียมพร้อมแร่ธาตุบำรุงกระดูก

ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์
  1. ขนาดเล็ก ทานง่าย ดูดซึมได้สมบูรณ์
  2. แคเซียม 2 รูป (ซิเตรท, ฟอทเฟต) ดูดซึมง่ายกว่าทั่วไป (คาร์บอเนต)
  3. มีวิตามิน และ แร่ธาตุอื่นๆที่จำเป็นต่อกระดูกครบถ้วน
      • วิตามินดี : ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
      • แมกนีเซียมในอัตราส่วนที่เหมาะสม (แคลเซียม + แมกนีเซียม = 2 : 1)
      • วิตามันเค สังกะสี ทองแดง ซิลิกอน ฟอสฟอรัส
  4. ไม่มีน้ำตาล แลคโตส เกลือโซเดียม ก๊าซ สารสกัดจากข้าวสาลี หรือ นม จึงปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
  5. แตกตัวได้สมบูรณ์ภายในเวลา 45 นาที ในภาวะจำลองกระเพาะอาหาร ตามมาตรฐานยา
ประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์
  1. บำรุงกระดูกให้แข็งแรง ลดภาวะกระดูกพรุน โดยเฉพาะในวัยทอง และ ผู้ใช้ยาสเตียร์รอยด์
  2. ผลดีอื่นๆเช่น แคลเซียมและ วิตามิน D อาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม ช่วยป้องกันน้ำหนักเพิ่มขึ้น จำเป็นต่อกล้ามเนื้อ สารสื่อประสาท การแข็งตัวของเลือดป้องกันการเกิดตะคริว


วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ageLOC R2 (เอจล็อค อาร์สแควร์)

ageLOC R2 (ageLOC R-SQUARED หรือ เอจล็อค อาร์สแควร์) คุณพร้อม ที่จะดูดี มีชีวิตชีวาเหมือนช่วงอ่อนเยาว์หรือยัง?

เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่เราต้องการคือ คงความสดใสดูอ่อนเยาว์ ทั้งภายนอกและภายใน ภายนอก คือผิวพรรณที่ปราศจากริ้วรอยก่อนวัย สัมผัสเรียบเนียน ดูเปล่งปลั่ง ส่วนภายในนั้นคือ ความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า มีพลังทั้งร่างกาย และ สมองพร้อมทำกิจกรรมต่างๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายเราไม่สามารถ ตอบสนองความต้องการได้อย่างตั้งใจ สัญญาณความแก่ที่สังเกตได้คือ เฉื่อยชา เซื่องซึม หงอยเหงา สูญเสียการควบคุมที่ดี ทั้งร่างกายและจิตใจ การแสดงออกของยีนจะเปลี่ยนแปลงไป และส่งผลต่อความรู้สึกอ่อนเยาว์ของร่างกายเรา เอจล็อค อาร์สแควร์ เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีเอจล็อค เพื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของความเสื่อมชราจากภายในได้แก่ การล้างพิษในระดับเซลล์ และการสร้างพลังงานในระดับเซลล์ ซึ่งจะประกอบไปด้วย 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เอจล็อค อาร์สแควร์ เดย์ เพื่อจัดการกับยีนที่เกี่ยวกับการสร้างพลังงานระดับเซลล์ และอาร์สแควร์ เอ็น (หรือ อาร์สแควร์ ไนท์) เพื่อจัดการกับยีนที่เกี่ยวกับการล้างพิษในระดับเซลล์

สารพิษระดับเซลล์ต่อความเสื่อมชรา
หากคุณสังเกตว่าร่างกายเริ่มเฉื่อย ปวดเมื่อยตามตัว โดยหาสาเหตุอธิบายไม่ได้ นั่นเป็นเพราะ เมื่อร่างกายเสื่อมชรา ประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ เพื่อขจัดของเสียลดลงทำให้มีของเสียสะสม ในเซลล์มากขึ้นเรื่อยๆ ของเสียเหล่านี้เป็นของเสียที่เกิดขึ้น จากการทำลายที่เกิดขึ้นในเซลล์ การเผาผลาญในเซลล์ ของเสียจากการเผาผลาญล้วนแต่ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ และเร่งขบวนการเสื่อมชรา ผลิตภัณฑ์เพื่อการล้างพิษในท้องตลาด มักเน้นปัญหาสารพิษจากสิ่งแวดล้อม โดยพยายามแก้ปัญหาที่อาการ เช่น การล้างพิษทางลำไส้ ก็จำกัดเพียงการล้างพิษ ในระบบทางเดินอาหาร หรือบางระบบเท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมการล้างพิษในระดับเซลล์
ความมีชีวิตชีวาลดลงเมื่อเสื่อมชรา
สัญญาณความเสื่อมชราที่เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่ ได้แก่ ความกระปรี้กระเปร่า ความสดชื่นมีชีวิตชีวาลดลง สมองเฉื่อย คิดช้า ไม่มีสมาธิ ความรู้สึกทางเพศลดลง นั่นเป็นเพราะความสามารถในการสร้างพลังงาน ในระดับเซลล์ลดลง ซึ่งในเซลล์แต่ละเซลล์ จะมีแหล่งพลังงานระดับเซลล์ที่เรียกว่า ไมโตคอนเดรีย จะเปลี่ยนอาหารและออกซิเจนให้เป็นพลังงานเพื่อนำไปใช้
ทั่วไปเรามักใช้อาหารที่สารกระตุ้น เช่น คาเฟอีน หรือน้ำตาล เพื่อเร่งให้เกิดความสดชื่น แต่เป็นเพียงชั่วคราว และหากใช้เป็นเวลานานในปริมาณที่สูง อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้น การจัดการให้ยีนแสดงออกอย่างเหมาะสม ทำให้การสร้างพลังงานในระดับเซลล์ กลับเป็นดังเช่นวัยหนุ่มสาว จึงเปรียบเหมือนกับการยกระดับพลังงาน ในร่างกายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพียงพอกับการทำกิจกรรมต่างๆ ของร่างกาย

ความอ่อนเยาว์ระดับเซลล์
การสร้างพลังงานระดับเซลล์ + การขจัดสารพิษในระดับเซลล์

ความโดดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง
ด้วยเทคโนโลยีจากประสบการณ์นานกว่า 30 ปี ด้านงานวิจัยด้านความเสื่อมชรา ระดับยีนของพันธมิตรทางวิทยาศาสตร์ ผนวกกับความเชี่ยวชาญ เรื่องสารอาหารจากธรรมชาติเพื่อสุขภาพ ทำให้ นู สกิน สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ด้วยเทคโนโลยีเอจล็อค ที่สามารถชี้เฉพาะ เป้าหมายยีน ที่เกี่ยวกับความอ่อนเยาว์ และจัดการให้กลุ่มยีนแห่งความอ่อนเยาว์ แสดงออกอย่างเหมาะสมดังเช่นในวัยหนุ่มสาว

ลักษณะของผลิตภัณฑ์และประโยชน์เบื้องต้น
  • เน้นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุแห่งความเสื่อมชรา
  • ส่งเสริมให้เกิดการแสดงออกที่สมดุลของกลุ่มยีนแห่งความอ่อนเยาว์ ที่เกี่ยวกับการล้างพิษและการสร้างพลังงานในระดับเซลล์
  • ช่วยให้คุณรู้สึกอ่อนเยาว์สร้างความมีชีวิตชีวาอีกครั้ง และเติมพลังให้กับความอ่อนเยาว์
  • ส่งเสริมพลังแห่งความอ่อนเยาว์ทั้ง 3 ด้าน-ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สมองฉับไว มีสมาธิ เพื่อสุขภาพทางเพศ
  • ยกระดับพลังงานพื้นฐานให้แก่ร่างกาย
  • ส่งเสริมความสามารถของร่างกายเพื่อการล้างพิษในระดับเซลล์
  • ช่วยปกป้องและเสริมความแข็งแรงให้เซลล์เพื่อด้านการทำลายจากสารพิษจากภายนอกด้วยการปรับปรุงขบวนการ ปกป้องตัวเองให้ดีขึ้น
  • ช่วยให้เซลล์ทำงานได้อย่างปกติ
ผลิตภัณฑ์เหมาะกับใครบ้ืาง?
  • สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 18 ปี ที่เคยรู้สึกเหนื่อย ไม่สดชื่น เหมือนพลังทางร่างกาย ไม่ตอบสนองกับกิจกรรมี่ต้องการทำ หรือสำหรับทุกคน ที่ต้องการฟื้นฟูความสดชื่นและความอ่อนเยาว์
  • สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว และรับประทานยารักษาโรค แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเสริมอาหาร
ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำให้รับประทานร่วมกัน
  • ไลฟ์แพ็ก - สารอาหารที่ครบถ้วน ช่วยให้เซลล์ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลาย จะช่วยปกป้องเซลล์ จากการทำลายของอนุมูลอิสระ จึงเหมาะสม ที่จะแนะนำให้รับประทานไลฟ์แพ็ก คู่กับ เอจล็อค อาร์สแควร์
  • ทีกรีน 97 - แนะนำให้รับประทานร่วม หากต้องการเสริมการปกป้องให้แก่เซลล์ยิ่งขึ้น
  • สำหรับผู้ที่เสริมอาหารด้วยคอร์ดีแม็กซ์ อาจเปลี่ยนมาเสริมอาหารด้วย อาร์สแควร์ แทนได้
  • ผลิตภัณฑ์เอจล็อคเพื่อผิวหน้า - เพื่อความครบถ้วนของการต้านความเสื่อมชราทั้งจากภายนอก และภายใน
คำถามที่พบบ่อย ageLOC R2
Q: ผลิตภัณฑ์เอจล็อค อาร์สแควร์ และเอจล็อค อาร์สแควร์ เอ็น หรือไนท์ แตกต่างกันหรือไม่ ทำไมจึงแนะนำให้รับประทานร่วมกัน
A: เอจล็อค อาร์สแควร์ ช่วยให้เกิดความสมดุลของการแสดงออกของยีนในสองส่วนที่เกี่ยวกับความอ่อนเยาว์ โดยเอจล็อคอาร์สแควร์ เดย์ จัดการการแสดงออกของกลุ่มยีนความอ่อนเยาว์ที่เกี่ยวกับการสร้างพลังงานในระดับเซลล์ ช่วยให้เซลล์สร้างพลังงานได้เพียงพอ ส่งผลดีต่อการทำงานของเซลล์ เอจล็อค อาร์แควร์ เอ็น หรือไนท์ จัดการการแสดงออกของกลุ่มยีนความอ่อนเยาว์ที่เกี่ยวกับการล้างพิษในระดับเซลล์ ช่วยขจัดสารพิษและของเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเซลล์ที่อาจตกค้างหรือสะสมที่อาจกีดขวางการทำงานที่สมบูรณ์ของเซลล์ ผสาน 2 คุณประโยชน์จากทั้งสองผลิตภัณฑ์ช่วยให้เซลล์ฟื้นฟู สู่ความอ่อนเยาว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Q: เราสามารถรับประทานผลิตภัณฑ์เอจล็อค อาร์แสควร์ ทั้ง 2 รวมกันในครั้งเดียวได้หรือไม่
A: เอจล็อค อาร์สแควร์ เดย์ แนะนำให้รับประทานในตอนเช้า เพื่อส่งเสริมการสร้างพลังงานที่เพียงพอตลอดทั้งวัน ส่วน เอจล็อค อาร์สแควร์ เอ็นหรือไนท์ แนะนำให้รับประทานในตอนเย็นเพื่อส่งเสริมการล้างพิษระดับเซลล์ซึ่งร่างกายเราจะทำการฟื้นฟูในช่วงเวลากลางคืน

Q: มีงานวิจัยใดที่สามารถสนับสนุนว่าเอจล็อคอาร์สแควร์ จัดการการแสดงออกของยีน?
A: สารสำคัญในผลิตภัณฑ์เอจล็อค อาร์สแควร์แต่ละตัวมาจากการวิจัยเพื่อศึกษาถึงผลของสารสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของกลุ่มยีนเป้าหมายของสารสำคัญนั้น ว่าสอดคล้องกับความต้องการเพื่อเปลี่ยนการแสดงออกให้เป็นดังวัยหนุ่มสาวหรือไม่ เมื่อนักวิทยาศาตร์กำหนดกลุ่มยีนอ่อนเยาว์ที่เป็นเป้าหมายได้ และรู้ถึงการแสดงออกของกลุ่มยีนนั้นในช่วงวัุยหนุ่มสาวว่า เป็นอย่างไร สารอาหารจากธรรมชาติหลากหลายชนิดจะถูกนำมาทดสอบในห้องทดลอง เพื่อดูผลของสารอาหารต่อการแสดงออกของยีน และคัดเลือกสารอาหารที่มีผลเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของกลุ่มยีนเป้าหมาย ให้เป็นรูปแบบ วัยหนุ่มสาว ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวได้เคยถูกนำเสนอในการประชุมวิชาการหลายงาน รวมถึงการประชุมวิชาการ Gordon research Conference, CoLONGY และ 1st World Congress on targeting Mitochondria.

Q: เอจล็อค อาร์สแควร์ จะมาแทนไลฟ์แพ็ก ใช่หรือไม่?
A: ไม่ใช่ เนื่องจากไลฟ์แพ็กเป็นผลิตภัณฑ์ที่อุดมด้วยสารอาหารจำเป็นเพื่อให้เซลล์ทำงานได้อย่างเหมาะสมและยังช่วยปกป้องเซลล์จากการทำงานได้อย่างเหมาะสม และยังช่วยปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระอีกด้วย นอกจากนี้การเสริมอาหารด้วย เอจล็อค อาร์สแควร์ ควบคู่กับไลฟ์แพ็ก ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์เพื่อย้อนสู่ความอ่อนเยาว์

Q: เอจล็อค อาร์สแควร์ ปลอดภัยสำหรับการรับประทานในระยะยาวหรือไม่?
A: เอจล็อค อาร์สแควร์ มีส่วนประกอบของสารอาหารธรรมชาติ ที่มีความปลอดภัย ออกฤทธิ์เพื่อปรับการแสดงออกของยีนเพื่อให้เหมาะสม ไม่ได้มีผลเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของยีนแต่อย่างใด จึงมีความปลอดภัยในระยะยาว

วิธีการรับประทาน

เอจล็อค อาร์สแควร์ เดย์ รับประทานครั้งละ 6 แคปซูล ในตอนเช้า
ส่วนประกอบสำคัญ
  • เอจล็อค อาร์แควร์ เดย์ เบลนด์ 1135 มิลลิกรัม
  • เห็ดคอร์ดีเซ็พส์
  • สารสกัดทับทิม
  • สารสกัดโสม
เอจล็อค อาร์สแควร์ เอ็น หรือไนท์ รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล ในตอนเย็น
ส่วนประกอบสำคัญ
  • เอจล็อค อาร์สแควร์ เอ็น เบลนด์ 450 มิลลิกรัม
  • สารสกัดเมล็ดองุ่น
  • สารสกัดเรดออเรนจ์คอมเพล็กซ์
  • สารสกัดบรอคคอรี่
สรุปได้ว่าคุณประโยชน์เบื้องต้นที่สำคัญมีดังนี้
  1. จัดการปัญหาความเสื่อมชราที่ต้นเหตุ
  2. ส่งเสริมให้เกิดการแสดงออกที่ดีของยีน ที่เกี่ยวกับการขจัดสารพิษ และการสร้างพลังงานในระดับเซล
  3. ช่วยให้เซลทำงานได้อย่างปกติ
  4. ส่งเสริมให้ร่างกายสามารถขจัดของเสียจากขบวนการเผาผลาญในร่างกาย
  5. ช่วยปกป้องและเสริมความแข็งแรงให้เซล เพื่อต้านการทำลายจากสารพิษจากภายนอก ด้วยการปรับปรุงขบวนการปกป้องตัวเองให้ดีขึ้น
  6. ช่วยให้คุณรู้สึกอ่อนเยาว์ สดใส เจิดจ้า ด้วยการสร้างความมีชีวิต ชีวา และเติมพลังอ่อนเยาว์


ทำไมต้องทานอาหารเสริม? และ ทำไมไลฟ์แพ็ค (Lifepak) จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ทำไมเราต้องทานอาหารเสริม
ถ้าในปัจจุบัน เราได้รับประทานอาหารอย่างสมบูรณ์แล้ว คุณอาจสงสัยว่ามีความจำเป็นต้องกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพิเศษหรือไม่?
มีเหตุผล 2 - 3 ข้อที่สนับสนุนว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ดีต่างๆก็เป็นที่น่าสนใจ
  1. อาหาร ถ้าไม่ได้รับประทานอาหารสกัดจากธรรมชาติ คุณก็อาจจะขาดสารอาหารบางชนิด เช่น วิตามิน และ แร่ธาตุบางชนิด อาจสูญเสียไปในระหว่างการขนส่ง และการเก็บรักษา การเตรียมอาหาร และ การปรุงอาหาร หรือ มิฉะนั้น อาหารสดจากธรรมชาติบางชนิดก็อาจจะขาดสารอาหารที่สำคัญ เช่น ขาดสารโคลีน วิตามิน, แอลคาร์นิทีน ช่วยในการดักจับไขมันในร่างกาย หรือ แคลเซี่ยมในการเสริมสร้างกระดูก ขาดสารจำเป็นบางอย่างในผู้ทานมังสวิรัติ นอกจากนี้อาหารบางอย่างอาจก่อให้เกิดโทษในร่างกายได้อีก เช่น อาหารไขมันสูง อาหารมีเชื้อโรค ท็อกซิน อาหารใส่สารกันบูด ใส่สี อาหารรสเค็มจัด หวานจัด อาหารที่ปรุงโดยผู้ปรุงที่ขาดสำนึกและระวัง เรื่องสุขอนามัย ความสะอาดในการปรุงอาหาร
  2. มลภาวะจากสิ่งแวดล้อมมีมากขึ้น น้ำเสียจากโรงงานและบ้านเรือน กลิ่นเหม็นจากสิ่งปฏิกูล ควันพิษจากรถยนต์ และ โรงงานต่างๆ สารพิษเหล่านี้หากร่างกายได้รับเข้าไปบ่อยๆเป็นเวลานาน จะก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกายได้อีกทางหนึ่ง และ ยังก่อให้เกิดโรคต่างๆนับไม่ถ้วน "เราต้องเตรียมร่างกายของเรา เพื่อการซ่อมแซมและปกป้องตัวเองจากสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ อันเป็นภาวะที่ร่างกายไม่เคยเผชิญมาก่อนในอดีต ในยุคนี้"
  3. ร่างกายตัวเอง สิ่ง ธรรมชาติได้ให้พลังชีวิต และ ความสมบูรณ์ของร่างกาย โดยมีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามอายุ ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่ อวัยวะต่างๆของร่างกายสามารถทำงานได้ดี มีความต้านทานโรคสูง และ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพราะร่างกายมีขบวนการเผาผลาญพลังงานที่สมบูรณ์ ผลิตสารแอนติอ๊อกซิแด๊นได้มาก อย่างต่อเนื่อง ระบบฮอร์โมนปรกติดี แต่เมื่อร่างกายอ่อนแอลง หรือ มีอายุเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพที่กล่าวมาทั้งหมดจะเสื่อมถอยลง ในขณะที่คนเรายังมีการรับสารพิษต่างๆเข้าสู่ร่างกายเหมือนเดิม โดยประมาณ และ ร่างกายจะเริ่มลดการผลิตสารต่อต้านสารพิษต่างๆเมื่อเริ่มอายุประมาณ 30 ปี โดยที่ร่างกายยังคงผลิตสารอนุมูลอิสระ และสารพิษอื่นๆ แล้วยังรับสารพิษจากอาหารและสิ่งแวดล้อมในปริมาณเท่าเดิม ร่ายกายก็จะเสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็ว
ขณะที่พูดกันว่าการกินอาหารครบ 5 หมู่ หรือ การมีชีวิตกระฉับกระเฉงนั้น คือหลักการพื้นฐานของการมีสุขภาพที่ดี แต่เดี๋ยวนี้ เรารู้ว่าในบางเวลาของชีวิต มีบางครั้ง ที่เราต้องการสารอาหารเป็นพิเศษ ความเครียดหรือโรคภัยไข้เจ็บอาจทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเป็นสิ่งจำเป็น ชีวิตที่วุ่นวายสับสนการกินอาหารอย่างเร่งรีบ การกินอาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น การฟื้นจากไข้ การวางแผนมีบุตร การกินอาหารมังสวิรัติ หรือ ภาวะชรา เหล่านี้ล้วนกดดันให้ร่างกายต้องการสารอาหารเพิ่มขึ้น นอกจากเงื่อนไขที่กล่าวข้างต้น ยังมีปัจจัยเพิ่มเติมที่คุณอาจไม่เคยคาดคิด เช่น ในอาหารประจำวันที่คุณกินอาจจะมีสารอาหารบางตัวไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ในภาวะเช่นนี้ คงเห็นชัดว่าการกินผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพเป็นประจำมีประโยชน์เพียงใด

ดังที่ นพ.กฤษดา ศิรามพุช กล่าวว่า มนุษย์เหมือนกองสารเคมี ที่มีสนิมแก่ จะขับออกมาจากร่างกายเราทุกๆเวลา ถ้าเราจะกินเพื่อต้านแก่ เราต้องกินให้มากกว่าปรกติ เราจะไม่พูดถึงวิตามินที่กินแค่ป้องกัน แต่ต้องกินเสริมเข้าไปด้วย ซึ่งคำพูดเก่าๆ You are what you eat! แต่ในปัจจุบันนี้เราได้ใช้คำพูดใหม่ You are what you are absorb! กันแล้วในปัจจุบัน

แล้วทำไมเราต้องเลือกไลฟ์แพ็ก เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม

เพราะในไลฟ์แพ็ก มีสารอาหาร และ วิตามินเกลือแร่ที่ครบถ้วนและสมดุลบรรจุอยู่ในซองเพียง 1 ซอง ซึ่งไม่สามารถหาได้อีกแล้วในท้องตลาด
  • ไลฟ์แพ็กมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า 30 ชนิด มีหลากหลายในปริมาณที่เพียงพอใน หนึ่งวัน (1 ซอง ต่อ 1 มื้อ)
  • ไลฟ์แพ็กมีการใช้มารตรฐานการควบคุมคุณภาพระดับสูงที่เรียกว่า 6S
    1. คัดเลือก
    2. แหล่งวัตถุดิบ
    3. โครงสร้าง
    4. มาตรฐาน
    5. ความปลอดภัย
    6. ผลการศึกษาทางคลินิค
  • ไลฟ์แพ็ก จะดูแลภูมิคุ้มกัน หรือ ภูมิต้านทานในระดับหน่วยเซลล์ DNA แต่ละเซลล์มีเป็นล้านๆ ไม่ว่า สมอง, หัวใจ และ กล้ามเนื้อ ซึ่งถ้าเราวิเคราะห์ยี่ห้ออาหารเสริมที่มีอยู่ในท้องตลาด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะจัดจำหน่าย แยกเป็นสูตรย่อยๆ หลายๆสูตร ซึ่งจะต้องเสียเงินซื้อประมาณ 7,000 บาท เพื่อที่จะให้ได้สารอาหารครบถ้วนเท่ากับไลฟ์แพ็ก แต่เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสารอาหารเหล่านั้นดูดซึมเข้าร่างกายได้อย่างไร? หรือ มีการหักล้างวิตามินกันหรือไม่? และ มีหลายๆคน ที่เลือกที่จะดูแลตัวเอง แต่ก็ไม่รู้จะเลือกวิตามินสูตรไหนสำหรับดูแลร่างกายตัวเอง
  • ไลฟ์แพ็ก มีซองใส่วิตามินที่เก็บแบบสุญญากาศ ไม่ระเหยในบรรยากาศเลย
ตอนนี้คุณพร้อมที่จะกำจัดสนิมแก่ออกจากร่างกายด้วยวิตามินและเกลือแร่ประเภทไหน? จะดีกว่าไหม? ถ้าเราจะเลือกโดยไม่ต้องคิดมาก คิดให้ปวดหัว โดยเลือกไลฟ์แพ็กของนูสกิน


วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

TRA Complex

ที อาร์ เอ คอมเพล็กซ์ (TRA Complex)
ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วย ชาเขียวสกัด , แคลเซียม, โครเมียม, แอล-ธีเอนีน และ ฟอสฟาทิดิลเซอรีน
  • ชาเขียวสกัด (Green Tea Extract)
    มีส่วนช่วยให้ร่างกายมีระบบการเผาผลาญที่ดีขึ้น
    ช่วยให้ระบบการทำงานของกลูโคสและไขมันดีขึ้น รวมทั้งช่วยให้อินซูลินอยู่ในระดับปกติ
  • แคลเซียม(Calcium)
    แคลเซียมมีบทบาทสำคัญในการควบคุมน้ำหนัก หากมีระดับของแคลเซียมในปริมาณที่ต่ำจะทำให้อ้วนง่ายและน้ำหนักเกิน แคลเซียมยังมีส่วนช่วยให้ร่างกายมีระบบการเผาผลาญที่ดีขึ้นโดยเฉพาะกระบวนการเผาผลาญไขมัน
  • โครเมียม (Chromium)
    โครเมียมมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในช่วงปกติ จึงช่วยลดความอยากอาหารและการสะสมไขมันได้
  • ฟอสฟาทิดิลเซอรีน(Phosphatidylserine)
    มีความสามารถในการปรับการตอบสนองของร่างกายต่อความเครียด โดยการควบคุมระดับของฮอร์โมนคอร์ติซอลให้อยู่ในช่วงที่ปกติ
  • แอล-ธีเอนีน (L-theanine)
    เป็นกรดอะมิโนที่สกัดได้จากใบชาเขียวมีคุณสมบัติกระตุ้นให้เกิดคลื่นสมองอัลฟา ที่ช่วยให้เกิดความผ่อนคลายลดความเครียดโดยไม่ทำให้ง่วงซึม
หมายเหตุ
คอร์ทิซอล (Cortisol) - ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความเครียด หากระดับคอร์ทิซอลเพิ่มขึ้น มีผลทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจะมีไขมันมาสะสมอยู่ที่หน้าท้องปริมาณมาก เนื่องมาจากคอร็ทิซอล (Cortisol) จะส่งสัญญาณมายังสมองให้เรารับประทานมากขึ้นโดยจะไปเพิ่มความอยากอาหาร และเซลล์ไขมันที่หน้าท้องเพื่อสะสมไขมันให้มากขึ้น ธีเอนีนและฟอสฟาทิดิลเซรีน มีส่วนช่วยลดความเครียด ช่วยให้ผ่อนคลาย จึงช่วยลดการเกิดสะสมของไขมัน และช่วยลดการสูญเสียกล้ามเนื้อในช่วงลดน้ำหนัก


TRA Shake (ทีอาร์เอ - เชค)

ที อาร์ เอ เชค (TRA Shake)
ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชนิดผง ที่มีส่วนประกอบของเวย์โปรตีนเข้มข้นและใยอาหารจากพืช มีให้เลือก 2 รสชาติ วนิลลาและช็อคโกแลต พลังงานต่อ 1 หน่วยบริโภค (2 ช้อน) 210 กิโลแคลอรี่

เวย์โปรตีนเข้มข้น (Whey Protein Concentrate)
เป็นโปรตีนที่ได้จากนม ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย (Essential amino acid) ที่ครบถ้วน ซึ่งร่างกายดูดซึมได้ง่าย กรดอะมิโนเหล่านี้ มีความสำคัญต่อการเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ พลังงานต่อ 1 หน่วยบริโภค ( 2 ช้อน) 210 กิโลแคลอรี่

ส่วนประกอบ
  • โปรตีนคาร์โบไฮเดรต ไขมัน
  • วิตามิน 12 ชนิด วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 โฟเลต ไบโอติน กรดแพนโธทีนิค วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี
  • เกลือ แร่ 13 ชนิด แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ซีลีเนียม แมงกานีส โมลิบดีนัม ไอโอดีน สังกะสี ทองแดง โครเมียม โซเดียม โพแทสเซียม


วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

G3 คืออะไร? และ มีประโยชน์อย่างไรกับสุขภาพ?


Gâc (แก็ก) คือ เครื่องดื่มเสริมในรูปของ "นาโน" ตามธรรมชาติ ซึ่งให้การดูดซึมที่เพิ่มขึ้นกว่าผลิตภัณฑ์ที่คล้ายๆกันในตลาด ผลแก็ก ถูกนำมาใช้ในการบำรุงรักษาสุขภาพมา ตั้งแต่สมัยโบราน ซึ่งช่วยฟื้นฟูร่างกายในระดับเซลล์, ป้องกันการทำลาย DNA จากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่าง กาย ในอดีตมันถูกใช้สำหรับส่งเสริมการเจริญเติบโตของเด็ก รักษาโรคตาบอดกลางคืน และทาแผลที่ติดเชื้อและไหม้ เพื่อกระตุ้นให้แผลหายเร็ว และ เป็นปรกติเร็วขึ้น

Gâc (แก็ก) มีปริมาณของเบต้าแคโรทีน มากกว่าแครอท 10 เท่า มีไลโคปีนมากกว่ามะเขือเทศ 70 เท่า มีกรดไขมันสูงที่สุดในหมู่ผลไม้ซึ่งกรดไขมันช่วยให้แคโรทีนอยด์ถูก ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้สูงขึ้น นอกจากนี้เครื่องดื่ม G3 ยังประกอบด้วยสุดยอดผลไม้สกัดอีก 3 ชนิดคือ
  1. ผลซีลี่ คิงออฟไวตามิน ซี มี มากกว่าส้ม 60 เท่า พบในแถบภูเขาสูงตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
    • ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง
    • เสริมสร้างพลังงานและความสดชื่น
    • ส่งเสริมสุขภาพผิว
    • ส่งเสริมสุขภาพของหลอดเลือด
    • ชลอการเสื่อมของเซลล์
    • และมีวิตามิน และ สารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆที่มีประสิทธิภาพ สูง
  2. สับปะรดไซบีเรี่ยน มีประวัติการนำมาใช้เพื่อการดูแลร่างกายมานานนับพันปี และ มีบันทึกกล่าวถึงในตำรับสมุนไพรของจีน บันทึกในอดีตกล่าวว่า มีประโยชน์ช่วยเสริมสร้างพลังงาน, ภูมิคุ้มกัน, เสริมสร้างการทำงานของตับ, สำหรับโรคผิวหนังบางชนิด
    • เสริมสร้างพลังงาน
    • เสริมสร้างการรักษาแผล
    • ปกป้องผิวจากการทำลายของแสงยูวี
    • ลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
    • ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
    • ดูแลเรื่องความดันโลหิต
    • เสริมสร้างสุขภาพของการย่อยอาหาร
    • เสริมสร้างสุขภาพของหลอดเลือด
    • เสริมสร้างสุขภาพของต่อมลูกหมาก
  3. ไชนีส ไลเซียม Lycium barbarum L. หรือรู้จักในนาม wolfberry หรือ the herb of longivety มีประวัติการใช้ที่ยาวนาน และเชื่อว่าเป็นผลไม้ที่ช่วยให้อายุยืนและสุขภาพดี มีบันทึกกล่าวไว้ว่า chinese lycium fruit ช่วยเสริมสร้างการมองเห็น, ป้องกันการปวดหัวเนื่องจากปัญหาที่มาจากตับและไต ประกอบด้วยซีแซนทีนมากกว่า 40 เท่าของข้าวโพดเหลือง ซึ่งเป็นแคโรทีนอยด์ประสิทธิภาพสูง สำคัญต่อสุขภาพดวงตา
    • ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง
    • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
    • เสริมสร้างพลังงาน
    • เสริมสร้างสุขภาพของดวงตา
    • เสริมสร้างสุขภาพของตับ,ปอด
    • บรรเทาอาการปวดศีรษะ
    • เสริมสร้างสุขภาพผิว
    • กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
    • มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด
  4. ผลไม้อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากผลไม้อื่นๆอีก ได้แก่แอปเปิ้ล ลูกแพร องุ่น และ อะเซลาล่า เชอร์รี่
จะเห็นได้ว่าผลไม้ที่นำมาผสมเป็นเครื่องดื่ม G3 นั้น เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์สูง ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ G3 แตกต่างจากเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพต่างๆที่มีอยู่ในท้องตลาด

ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์
  1. รวมผลไม้สมุนไพรจีนหายาก 4 ชนิดที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้นกว่าผลไม้ทั่วไป 10 - 70 เท่า
  2. ให้สารอาหารมากกว่า 170 ชนิด ที่มีประโยชน์กับร่างกาย
  3. เป็นเจ้าแรก เจ้าเดียว และ เป็นสูตรที่จดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว
  4. นาโนธรรมชาติ Lipocarotene ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร 40%
  5. ดูดซึมเร็ซ เพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระได้อย่างรวดเร็ว และ มากกว่าน้ำมังคุด และ ลูกยอเกือบ 4 เท่า
  6. ปลอดภัยสูง เพราะมีการนำมาใช้นานกว่าพันปี มีบันทึกในตำรายาจีนโบราณ
  7. การศึกษาวิจัยกว่า 303 ฉบับ ขณะที่ผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้อื่นมีแค่ 100 กว่าฉบับ
  8. น้ำผลไม้ธรรมชาติ 100% ไม่เจือจาง ปราศจากสารเคมีแต่งกลิ่นและสี
ประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ (อ้างอิงจากการศึกษาคุณประโยชน์ของผลไม้ทั้ง 4 ชนิด)
  1. ช่วยดูแลสุขภาพดวงตา มีผลดีต่อภาวะต้อกระจก, ต้อหิน, ดาแห้ง และ การมองเห็น
  2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
  3. ต้านการเสื่อมของเซลล์ ชะลอความเสื่อมชราของเซลล์ในร่างกาย โดยต่อต้านอนุมูลอิสระ และ กระตุ้นการสร้างเอนไซด์ต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ เช่น ซูเปอร์ออกไซด์ ดิสมิวเตส (SOD) คาตาเลส (CAT) และ กลูต้าไธโอน เพอร์ออกซิเตส (GPX)
  4. สุขภาพของกล้ามเนื้อ ปกป้องข้อ และเสริมสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ
  5. ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และ หลอดเลือด ช่วยรักษาความดันโลหิตให้คงที่ และ ลดไขมันร้าย (LDL) รักษาระดับไขมันดี (HDL)
  6. ส่งเสริมสุขภาพของผิวหนัง โดยเฉพาะการปกป้องผิวด้วยการดูดซับรังสีจากแสงแดด
  7. ลดความเสี่ยงของการเกิดเซลล์มะเร็ง อันเนื่องมาจากการทำลายของอนุมูลอิสระ
  8. ช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เสริมสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย และลดความเครียด
  9. บรรเทาอาการปวดศีรษะ โดยเฉพาะโรคไมเกรน
  10. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และ ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
  11. เสริมสุขภาพของระบบประสาทและสมอง ป้องกันภาวะความจำเสื่อม และ ภาวะสมองขาดเลือด
  12. มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และ ต้านการอักเสบของเนื้อเยื่อ
  13. ส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ และ ต่อมลูกหมาก
  14. ช่วยเสริมสร้างกระบวนการสมานของบาดแผล
  15. ส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร และ บำรุงตับ
  16. ส่งเสริมระบบขับถ่ายให้ทำงานดีขึ้น


วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มารีน โอเมก้า (Marine Omega) คืออะไร? สำคัญอย่างไร?


Marine Omega เป็น โอเมก้า 3 คุณภาพสูง ที่ได้จากการสกัดมาจากปลาน้ำลึกทั้งตัว รวมทั้งมีน้ำมันที่เรียกว่า คริลล์ ออยล์ ซึ่งได้จากตัว คริลล์ ที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทธแบบแอนตาร์กติกา โดยคริลล์ ออยล์ จะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพสูง นอกจากนี้ น้ำมันปลาของบริษัท ยังมีกลิ่นที่หอม และ รับประทานง่าย ด้วยส่วนประกอบที่ได้จากมะนาว
โอเมก้า 3 คือ กรดไขมันจำเป็น ไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่ร่างกายมีความจำเป็นต้องใช้แต่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้ โอเมก้า 3 แบ่งออกได้ เป็น 3 ชนิดขึ้นอยู่กับความยาวของโมเลกุลดังนี้
  1. กรด ไขมัน ALA
  2. กรด ไขมัน EPA
  3. กรด ไขมัน DHA
กรดไขมัน โอเมก้า 3 ในร่างกายมนุษย์มีมากบริเวณสมอง และ ดวงตา การรับประทานกรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นประจำจึงช่วยบำรุงระบบสมอง และ ดวงตาโดยตรง โอเมก้า 3 พบมาก ในสัตว์ ทะเล เช่น แมวน้ำ ปลา กุ้ง สาหร่ายทะเล เป็นต้น
คริลล์ คือ สัตว์เล็กๆมีลักษณะคล้ายกุ้ง ส่วนมากจะพบในมหาสมุทรแถบเกาะแวนคูเวอร์ รัสเซีย ยูเครน และ ญี่ปุ่น น้ำมันคริลล์มีสัดส่วนของกรดไขมัน โอเมก้า 3 ต่อ โอเมก้า 6 สูงประ มาณ 15: 1 และ มีส่วนประกอบของ แคโรทีนอยด์ และ ฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีประสิธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอีถึง 550 เท่า น้ำมันคริลล์ มีส่วนประกอบของฟอสโฟไลปิดสูงถึง 40% ในขณะที่แหล่งกรดไขมัน โอเมก้า 3 อื่นๆ จะไม่พบฟอสโฟไลปิด
ความ ไม่สมดุลของกรด ไขมันส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร
สำหรับโอเมก้า 6 และ โอเมก้า 3 นั้น ต่างก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยผลการทำงานของ โอเมก้า 6 และ โอเมก้า 3 จะทำให้เกิดผลกับร่างกายดังนี้
  1. โอเมก้า 6 เป็นสารตั้งต้นของสารที่ เรียกว่า "Proinflammatory" เมื่อร่างกายใช้โอเมก้า 6 จะทำให้เกิดการอักเสบในบริเวณนั้นๆ
  2. โอเมก้า 3 เป็นสารตั้งต้นของสารที่ เรียกว่า "Anflammmatory" ซึ่งมีผลต่อต้านการอักเสบ รวมไปถึงการอักเสบที่เกิดจากโอเมก้า 6 ด้วย
ในปัจจุบันร่างกาย ได้รับกรดไขมัน โอเมก้า 6 สูงมาก โดยสัดส่วนของ โอเมก้า 6 ต่อ โอเมก้า 3 อยู่ที่ 20:1 ทำให้ร่างกายเสียสมดุล และมีผลอื่นๆตามมาอีกมากมาย สำหรับโอเมก้า 6 นั้น โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะได้รับจากอาหารประเภทของทอด และ ขนมขบเคี้ยวมากที่สุด
ข้อดีของการบริโภค มารีน โอเมก้า (Marine Omega)
  • เพื่อสุขภาพของหัวใจ และ หลอดเลือดที่แข็งแรง
    ลดความเสี่ยงจากหลอดเลือดอุดตัน โดยช่วยลดระดับ ไขมัน ไตรกลีเซอร์ไรด์ และ คอเรสเตอรอลในเลือด ลดการเกาะตัวกันของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดีขี้น อาจช่วยดูแลระดับความดันเลือดให้ปกติ ลดการเกิดอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
  • เพื่อสุขภาพที่ดีของสมอง และ เส้นประสาท
    จำเป็นต่อการทำงานของสมอง และ สารสื่อประสาทส่งเสริมความจำ มีสมาธิในการทำงาน ช่วยให้ความคิดฉับไว ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคสมองเสื่อม
  • เพื่อสุขภาพของผิวหนังที่แข็งแรงขี้น
    ปกป้องผิวจากการถูกทำลายโดยแสงแดด ซื่งก่อให้เกิดริ้วรอย และ มะเร็งที่ผิวหนังทำให้ เซลล์ผิวหนัง แข็งแรง เก็บกักความชุ่มชื้นได้ดี โอ เมก้า 3 ส่ง เสริมสุขภาพที่ดีของระบบภูมิคุ้มกันช่วย ให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานอย่างปกติลดปัญหาภูมิแพ้
  • เพื่อสุขภาพที่ดีของข้อ
    ช่วยลดการอักเสบของข้อบรรเทาอาการข้อฝืดหรือติดในตอนเช้าของผู้มีข้ออักเสบ
ส่วนประกอบสำคัญ สำหรับรับประทาน 1 ครั้ง (2 แคปซูล):
  • Marine Lipid Concentrate 2000 mg
  • Omega-3 Fatty Acids
  • EPA 300 mg
  • DHA 200 mg
  • Other Omega-3 Fatty Acids 100 mg
  • Krill Oil 100 mg
  • Vitamin E (as Natural Mixed Tocopherols) 10 IU

มาตรฐาน 6S ของ Pharmanex คืออะไร? สำคัญอย่างไร?

มาตรฐาน 6S ของ Pharmanex คืออะไร?

ฟาร์มาเน็กซ์ เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญ กับผู้บริโภค และ ผลิภัณฑ์ของตนเอง เป็นอันดับต้นๆ ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงตัดสินใจที่จะไม่ใช้มาตรฐาน GMP ที่นิยมใช้กันในแวดวงอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่ได้ใช้มาตรฐาน 6S แทน ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในวงการการผลิตยา และ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรค
มาตรฐาน GMP นั้นไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องใช้ผลวิจัยทางคลีนิค (Clinical Study) เพราะการทำผลวิจัยทางคลีนิคนั้น เป็นการทดสอบประสิทธิภาพที่ใช้เงินทุนมหาศาล และ ไม่มีกฎหมายข้อใด ที่บังคับให้บริษัทที่ผลิต ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้องทำผลการวิจัยทางคลีนิค (Clinical Study) โดยผลวิจัยทางคลีนิคนั้น ส่วนใหญ่จะถูกบังคับให้ใช้กับบริษัทยา
สำหรับมาตรฐาน 6S ที่บริษัท Pharmanex ใช้นั้นจะใช้ผลวิจัยทางคลีนิค (Clinical Study) ขั้นสูงกว่าผลวิจัยทางคลีนิค (Clinical Study) ปรกติ โดยใช้ในลักษณะ Double Blind Study ซึ่งจะช่วยให้ได้ผลการทดสอบที่แน่นอน และ ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น
มารฐาน 6S มีอะไรบ้าง?

  1. การคัดเลือก (Selection)
    พืชสมุนไพรที่ฟาร์มาเน็กซ์เลือกใช้ จะต้องผ่านการตรวจสอบในด้านเป็นของแท้ นำไปใช้ประโยชน์ได้ และ มีความปลอดภัยในการใช้
  2. การหาแหล่งวัตถุดิบ (Sourcing)
    นักวิทยาศาสตร์ของฟาร์มาเน็กซ์ จะต้องตรวจสอบหาแหล่งของพืช รวมถึงพิจารณาคุณภาพของวัตถุดิบ แล้วทำการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ซึ่งจะทดสอบพืชดังกล่าว ณ สถานที่ที่ได้คัดเลือกไว้
  3. การวิเคราะห์ทางโครงสร้างสารประกอบ (Structure)
    ฟาร์มาเน็กซ์ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัย และ สถาบันวิจัยที่มีชื่อเสียง ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา และ จีน ทำการวิเคราะห์หาโครงสร้าง ของสารประกอบธรรมชาติที่มีอยู่ในพืชที่คัดเลือกไว้ และ วิเคราะห์หาโครงสร้างของสารประกอบหลักที่ออกฤทธิ์ของพืชอย่างละเอียดถี่ถ้วน
  4. การเข้มงวดด้านมาตรฐานของการผลิต (Standardization)
    ฟาร์มาเน็กซ์คิดค้นขบวนการในการทำให้สารสำคัญเกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้การควบคุมคุณภาพมาตรฐานอย่างเข้มงวด และ พัฒนาขบวนการที่ช่วยเพิ่มความถูกต้องและ สามารถรับรองได้ว่าแต่ละผลิตภัณฑ์ ของฟาร์มาเน็กซ์ นั้นมีประสิทธิภาพจริง
  5. ความปลอดภัยในการบริโภค (Safety)
    ฟาร์มาเน็กซ์ เป็นผู้นำในด้านการกำหนดมาตรฐานที่เข้มงวด เพื่อรับรองถึงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้น โดยมีการตรวจสอบหาเชื้อ (Microbial Test) สารเคมี (Chemical) สารพิษ (Toxin) และ โลหะหนัก ที่มีอยู่ในแต่ละผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์ และ ความปลอดภัยสูงสุดจากผลิตภัณฑ์ของฟาร์มาเน็กซ์
  6. มีหลักฐานและผลการศึกษาทางคลีนิคสนับสนุน (Substantiation)
    ฟาร์มาเน็กซ์พัฒนาทุกผลิตภัณฑ์ บนพื้นฐานของข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และ การศึกษาทางคลินิก รวมทั้งสนับสนุนการวิจัยผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดอย่างจริงจัง ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการศึกษาเหล่านี้ได้รับการยอมรับ และ ตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำต่างๆเสมอ


วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

BioPhotonic Scanner มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน?

บทความที่แล้วผมเขียนถึงเรื่อง Biophotonic Scanner คืออะไร ไปแล้ว คราวนี้ผมมีบทความเกี่ยวกับเรื่อง การศึกษาเปรียบเทียบ ผลของการวัดสารต้านอนุมูลอิสระ ระหว่างการใช้เลือด และ การวัดค่าด้วย Biophotonic Scanner ว่ามีความเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งการศึกษานี้ นพ.สงวนศักดิ์ ฤกษ์ศุภผล คณะแพทยศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ เป็นผู้ทำการศึกษาผลที่ได้ เราลองมาดูผลการศึกษาดังกล่าวกันเลยครับ
นพ.สงวนศักดิ์ ฤกษ์ศุภผล คณะแพทยศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ แนะนำให้คนไทยตรวจเครื่อง Pharmanex BioPhotonic Scanner จาก นสพ. ไทยรัฐ

โรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคหลอดเลือดสมอง

นายแพทย์สงวนศักดิ์ ฤกษ์ศุภผล คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ บอกว่า สาเหตุหลักส่วนใหญ่ของโรคเรื้อรังเหล่านี้ มาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหาร ความเครียด การขาดการออกกำลังกาย และ ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายต่ำ

"ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่รู้ตนเองล่วงหน้าว่าป่วยเป็นโรคร้ายต่างๆ เนื่องจากขาดอาการบ่งชี้ของโรค ขาดการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เราจึงมักพบผู้ป่วยจำนวนมาก ที่ตรวจพบเจอโรคร้ายในระยะสุดท้าย หรือเสียชีวิตก่อนทำการรักษาไปอย่างน่าเสียดาย"


คุณหมอสงวนศักดิ์ บอกว่า ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ ในร่างกายสามารถบ่งชี้สุขภาพของบุคคลได้ เพราะสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นด่านแรกในการปกป้องเซลล์จากการจู่โจมของอนุมูลอิสระ ที่เป็นตัวการทำร้ายร่างกายอันเกิดจากมลภาวะ ควันบุหรี่ แสงแดด การดำรงชีวิตประจำวันของคนไทยปัจจุบัน

ปกติแล้ว ในร่างกายของเรา จะมีระบบต่อต้านอนุมูลอิสระ ด้วยเอนไซม์ที่ร่างกายสร้างขึ้น ซึ่งร่างกายจะต้อง ได้รับสารอาหารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ที่หลากหลายอย่างเพียงพอ เพื่อให้ระบบต่อต้านอนุมูลอิสระ ในร่างกาย สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และกำจัดเอาของเสียเหล่านี้ออกไปจากร่างกาย

คุณหมอสงวนศักดิ์ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยและอุปกรณ์ เครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ตรวจวัดค่าเฉลี่ยสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อหาความสัมพันธ์ที่มีผลต่อสุขภาพ ผลการเก็บข้อมูลจากอาสาสมัครคนไทย 80 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ 40 คน และคนสุขภาพแข็งแรงจำนวน 40 คน พบว่า ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ มีระดับสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อร่างกาย ต่ำกว่าคนสุขภาพแข็งแรงเกือบ 2 เท่า อีกทั้ง คนไทยทั่วไปยังมีค่าเฉลี่ยสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในระดับต่ำ ประมาณ 10,000-30,000 ซึ่งเป็นระดับที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆได้

คนไทยควรจะมีค่าสารต้านอนุมูลอิสระในระดับ 50,000 ขึ้นไป ซึ่งเป็นค่าที่มีความสอดคล้องกับ ระดับแคโรทีนอยด์ ในเลือด และเป็นระดับที่บ่งชี้ว่าบุคคลนั้น มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังเหล่านี้ น้อยกว่าคนที่มีค่าสารต้านอนุมูลอิสระต่ำ

คุณหมอสงวนศักดิ์ บอกว่า สำหรับเครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ (Biophotonic Scanner) เป็นนวัตกรรมใหม่ ค้นคว้าวิจัยโดย ดร.เวอร์เนอร์ เกลเลอร์แมน สถาบันเลเซอร์ แผนกฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ใช้พื้นฐานเทคโนโลยีรามาน สเปคโตรสโคปี โดยเซอร์ซีวี รามาน เจ้าของรางวัลโนเบล

วัดระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนังมนุษย์ด้วยแสงเลเซอร์พลังงานต่ำ โดยไม่ต้องเจาะเลือด แต่ได้ค่าที่แม่นยำเทียบเท่ากับการเจาะเลือด ทำให้ทราบถึงระดับสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายได้อย่างง่ายดาย และปลอดภัย ภายในเวลา 3 นาที

เหล่านี้คือความสำคัญของอนุมูลอิสระ คุณหมอสงวนศักดิ์แนะอีกว่า วิธีดูแลสุขภาพให้ห่างไกลโรคร้าย สิ่งสำคัญคือการรับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ "เน้นการรับประทานผักสด ผลไม้หลากสี เพื่อเสริมสร้างปริมาณ สารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายให้เพียงพอ"

ผัก ผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระปริมาณมาก ได้แก่ คะน้า มะเขือเทศ แครอท ฟักทอง และมะเขือม่วง อีกทั้งยังต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกายให้เสียเหงื่ออย่างสม่ำเสมอ หมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อรู้เท่าทัน เตรียมพร้อมรับมือโรคร้ายได้อย่างทันท่วงที สุดท้ายอย่าลืมข้อเลี่ยงสำคัญคือ มลภาวะและความเครียด

ที่มา : บางส่วนจาก บทความของไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ.2553
จะเห็นได้ว่า จากการศึกษา นพ.สงวนศักดิ์ ฤกษ์ศุภผล สามารถสรุปได้ว่า ผลจากการตรวจด้วยวิธีการตรวจเลือดนั้น ไม่แตกต่าง กับผลที่ได้จากการตรวจด้วย Biophotonic Scanner เลย แต่การตรวจด้วยวิธีการตรวจเลือดนั้น จะใช้เวลานาน และ มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับการใช้ Biophotonic Scanner ที่ใช้ระยะเวลาในการตรวจแค่ 3 นาที และ มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่ามาก


Biophotonic Scanner คืออะไร?


Biophotonic Scanner คือ เครื่องตรวจหาสารต้านอนุมูลอิสระ หรือ แคโรทีนอยด์ ที่ผิวหนัง โดย แคโรทีนอยด์ เป็นกลุ่มของสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งมีอยู่ในพืช ผักผลไม้ ที่ร่างกายจะได้รับจากการทานเข้ามาเท่านั้น โมเลกุลของแคโรทีนอยด์ จะหมดสภาพไปเมื่อจับกับอนุมูลอิสระ และทำให้อนุมูลอิสระนั้นไม่อยู่ในสถานะ ที่จะไปทำลายเซลล์ได้ หนึ่งโมเลกุลของแคโรทีนอยด์ สามารถจับกับอนุมูลอิสระได้ 20 อนุมูลอิสระ หรือมากกว่า ดังนั้นการที่เราสามารถรู้ระดับของสารแคโรทีนอยด์ได้ ก็สามารถบอกถึงระดับโดยรวม ของสารต้านอนุมูลอิสระที่ปกป้องร่างกายได้ดัง นั้นระดับของแคโรทีนอยด์ที่สูง ก็แสดงถึงความแข็งแกร่ง ของเครือข่ายการต้านทานอนุมูลอิสระของร่างกาย
เทคโนโลยีของเครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์มาจากไหน?
เทคโนโลยีของเครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์มีพื้นฐานมาจากทฤษฎีชื่อ รามาน สเปคโตรสโครปี (Raman Spectroscopy) เกี่ยวกับการหักเหของแสง ซึ่งค้นพบโดยนักฟิสิกส์เจ้าของรางวัลโนเบล ปี ค.ศ.1930 เซอร์ ซี.วี. ราแมน ทีมค้นคว้าวิจัยจากสถาบันเลเซอร์ แผนกฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยยูท่าห์ สหรัฐอเมริกานำทีมโดย ดร. เวอร์เนอร์ เกลเลอร์แมน ได้ใช้เวลากว่า 6 ปี ในการพัฒนาการค้นคว้า นำทฤษฎีของเซอร์ ซี.วี ราแมน มาสร้างเป็นเครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ สุดยอดวิทยาการในการวัดระดับ แคโรทีนอยด์ที่ผิวหนังมนุษย์ ด้วยแสงเลเซอร์พลังงานต่ำ

ค่าสารต้านอนุมูลอิสระ แคโรทีนอยด์ บอกอะไรกับเรา?
แคโรทีนอยด์เป็น สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง (Powerful Antioxidant) การวัดระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนัง (Skin Carotenoid Score : SCS) ด้วยเครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ ช่วยให้ทราบระดับความเข้มข้น ของแคโรทีนอยด์ในร่างกาย เพื่อประเมินระดับสารต้านอนุมูลอิสระ ในร่างกายว่าเพียงพอในการปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระหรือไม่

ร่างกายจำเป็นต้องได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ ที่หลากหลาย เพื่อทำงานเป็นโครงข่าย ต่อสู้กับอนุมูลอิสระ เรียกว่า ระบบการต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant Defense system) ซึ่งจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อร่างกายได้รับสารอาหาร ที่ช่วยเสริมการต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลาย ในปริมาณที่เพียงพอจากอาหาร และ การเสริมอาหาร

ค่าสารต้านอนุมูลอิสระที่วัดได้หมายความว่าอย่างไร?
  1. ค่าต่ำกว่า 29,000 หมายถึงค่าสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในระดับต่ำ
    • รับประทานผัก ผลไม้น้อยหรือไม่หลากหลาย
    • ต้องเผชิญกับอนุมูลอิสระ เช่น ควันบุหรี่ แสงแดด มลภาวะ ความเครียด
    • มีน้ำหนักเกินหรือไขมันส่วนเกิน
    • เสริมอาหารไม่สม่ำเสมอหรือไม่ได้เสริมอาหาร
  2. ค่าอยู่ระหว่าง 30,000 - 49,000 หมายถึงค่าสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในระดับปานกลาง
    • รับประทานผัก ผลไม้ไม่เพียงพอหรือไม่หลากหลายพอ
    • ต้องเผชิญกับอนุมูลอิสระ เช่น ควันบุหรี่ แสงแดด มลภาวะ ความเครียด
    • มีไขมันส่วนเกินในร่างกาย
    • เสริมอาหารไม่สม่ำเสมอ
  3. ค่าตั้งแต่ 50,000 ขึ้นไปหมายถึงค่าสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในระดับเพียงพอ
    • รับประทานผัก ผลไม้เพียงพอ
    • หลีกเลี่ยงแหล่งอนุมูลอิสระได้ดี
    • ดูแลน้ำหนักและรูปร่างได้ดี
    • เสริมอาหารอย่างสม่ำเสมอ
ปัจจัยที่มีผลต่อค่าระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนัง (SCS)
  1. อาหารที่รับประทานแต่ละวัน : ผู้ที่รับประทานผัก ผลไม้ที่มีแคโรทีนอยด์สูง จะมีค่า ระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนังสูง
  2. การเสริมอาหาร : ผู้ที่เสริมอาหารด้วยผลิตภัณฑ์ ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่หลากหลายในปริมาณพอเหมาะอย่าง สม่ำเสมอจะมีระดับ แคโรทีนอยด์ที่ผิวหนัง. สูง
  3. ปริมาณไขมันในร่างกาย : ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือมีระดับไขมันในร่างกายมากเกินไป ในระดับอายุและเพศของ แต่ละคน มีโอกาสที่ค่าระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนัง ต่ำ
  4. การดำเนินชีวิตของแต่ละคน : สภาพแวดล้อมที่มีอนุมูลอิสระสูง เช่น ควันบุหรี่, แสง แดด, ความเครียด, มลภาวะ และสารพิษ มีผลทำให้ค่าระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนังลดลง
  5. ปัจจัยทางพันธุกรรม : ส่งผลต่อการดูดซึม สารอาหารและแคโรทีนอยด์ที่แตกต่าง กันของร่างกาย จึงมีผลต่อค่าระดับแคโรทีนอยด์ ที่ผิวหนังที่วัดได้
ไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ มีความจำเป็นอย่างไรต่อการดูแลสุขภาพ
ในอดีต การวัดระดับแคโรทีนอยด์ เพื่อสามารถประเมินประสิทธิภาพในการ ต่อต้านอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกาย ทำได้ด้วยการเจาะเลือด หรือตรวจจากปัสสาวะ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูง และประมาณ 14 - 21 วันจึงจะทราบผล สำหรับไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์นั้น เราสามารถวัดระดับแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนัง บริเวณฝ่ามือ รู้ผล ภายใน 3 - 5 นาที ระดับแคโรทีนอยด์ ที่วัดได้ทำให้เราประเมินได้ว่า ร่างกายได้รับสารอาหารเพื่อการปกป้อง อนุมูลอิสระเพียงพอหรือไม่ หากค่าที่วัดได้ต่ำ เราจะต้องดูแล ให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น หากค่าที่วัดได้สูง เราจะต้องดูแลให้ร่างกาย ได้รับสารอาหารที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระให้สม่ำ เสมอเพื่อรักษาให้มีระดับแคโรทีนอยด์สูงอยู่เสมอ เพราะร่างกายเราต้องเผชิญกับอนุมูลอิสระจากมลภาวะ ควันบุหรี่ หรือแม้แต่จากภายในร่างกายเองอยู่ตลอดเวลา การมีระดับสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายสูงๆ จะช่วยปกป้องร่างกายจากการถูกอนุมูลอิสระทำร้าย (ผลจากอนุมูลอิสระเช่น โรคหัวใจ หลอดเลือด มะเร็ง และการเสื่อมของร่างกาย)

แคโรทีนอยด์คืออะไร? สำคัญอย่างไร?
แคโรทีนอยด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ซึ่งพบได้ในผักและผลไม้ที่มี สีแดง เหลือง ส้ม หรือเขียวเข้ม ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับจากการรับประทานเท่านั้น มีประสิทธิภาพในการปกป้องเซลล์ร่างกาย จากการทำร้ายของอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุของความเสื่อมของเซลล์

แคโรทีนอยด์ เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญ ต่อกระบวนการทำงาน ของระบบการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย เพราะนอกจากช่วยปกป้องเซลล์ ของร่างกาย จากอนุมูลอิสระแล้ว ยังมีหน้าที่ช่วยฟื้นฟู ในสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆเช่น วิตามิน ซี หรือวิตามินอี ให้กลับมาทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระได้เหมือนเดิม แคโรที นอยด์จึงเป็นสารอาหารสำคัญ ที่สามารถบอกถึงสถานะ ของระดับสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายได้

เครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยหรือไม่? ทราบได้อย่างไร?
เครื่อง ไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์ ใช้แสงเลเซอร์สีน้ำเงินพลังงานต่ำ ในการวัดค่าแคโรทีนอยด์ที่ผิวหนัง ซึ่ง Center for Devices and Radiological Health (CDRH) ซึ่งอยู่ในการดูแลขององค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา และภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรีได้พิจราณาและตรวจสอบแล้วว่า แสงเลเซอร์ที่ใช้ในการวัดค่า Carotenoids นี้มีความปลอดภัยไม่ทำอันตรายต่อผิวหนัง ค่าที่วัดได้จากเครื่องสแกนเนอร์ มีความน่าเชื่อถือว่าถูกต้องแม่นยำเทียบ เท่ากับการเจาะเลือด จากการศึกษาหนึงของดร. คาร์เทน สมิธ ซึ่งผลงานได้ถูกนำเสนอ ในงานประชุมวิชาการระดับโลก เช่น The experimental
Biology 2004และผลงานได้ตีพิมพ์ลงใน วารสาร FASEB (Federation of American Societies for Experimental Biology) อีกด้วย

รางวัลอันทรงเกียรติสำหรับเครื่องไบโอโฟโตนิค สแกนเนอร์


  • รางวัล Most Innovative Award ที่ American business award 2005
  • รางวัล 2005 National Innovation Award ที่ไต้หวัน
  • รางวัล Malaysia Innovative Award 2008
  • รางวัล ITEX 08 Bronze Award


ไลฟ์แพ็ค แอนไทเอจจิ้ง (LifePak Anti-Aging) คืออะไร?

LifePak Anti-Aging ไลฟ์แพ็ก แอนตี้เอจจิ้ง คือ ผลิตภัณฑ์ "อาหารเสริมสุขภาพ" เพื่อ เสริมสร้างสุขภาพร่างกาย ให้แข็งแรงในระยะยาว เพราะครบถ้วนด้วยสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง วิตามิน เกลือแร่ และสารไฟโตนิวเทรียนท์ (สารสกัดจากพืช ผัก ผลไม้) ในปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกาย และร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้เต็มที่

ไลฟ์แพ็กได้รวมคุณค่า 5 สูตรในหนึ่งเดียว ได้แก่
  1. สูตรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ในปริมาณที่เหมาะสมและหลากหลาย และเพิ่มสารอาหารในการต้านความเสื่อมของเซลล์
  2. สูตรที่ให้วิตามิน บี ในสัดส่วนที่สมดุล
  3. สูตรที่มีสารไฟโตนิวเทรียนท์ที่หลากหลาย
  4. สูตรสารอาหารที่จำเป็นต่อกระดูกที่แข็งแรง
  5. สูตรที่ช่วยเสริมเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
ส่วนประกอบสำคัญ สารสำคัญ (Ingredients) :
  • วิตามิน (Vitamin) :
    • วิตามิน เอ (Vitamin A)
    • เบต้า - แคโรทีน (beta Carotene)
    • วิตามิน อี (Vitamin E)
    • วิตามิน ซี (Vitamin C),
    • วิตามิน บี 7 (ไบโอทิน (Biotin))
    • วิตามิน ดี 3 (Vitamin D3)
    • วิตามิน เค (Vitamin K)
    • วิตามิน บี 1 (Vitamin B1)
    • วิตามิน บี 5 (ไนอาซินกรดแพนโทธีนิค (Pantothenic acid))
    • วิตามัน บี 9 (โฟเลต (Folate))
    • วิตามิน บี 12 (Vitamin B12)
    • วิตามิน บี 2 (Vitamin B2)
    • วิตามิน บี 6 (Vitamin B6)
  • เกลือแร่ (Mineral) :
    • แคลเซียม (Calcium)
    • แมกนีเซียม (Magnesium)
    • ซีลีเนียม (Selenium)
    • สังกะสี (Zinc)
    • โครเมียม (Chromium)
    • ไอโอดีน (Iodine)
    • แมงกานีส (Manganese)
    • ทองแดง (Copper)
    • เหล็ก (Iron)
    • โมลิบดินั่ม (Molybdenum)
    • ซิลิคอน (Silicon) (Niacin),
  • สารสำคัญอื่นๆ (Other ingredients) :
    • คาทีชิน - ชาเขียวสกัด (Green Tea Extract,97%)
    • กรดแอลฟาไลโพอิค (Alpha - lipoic acid)
    • ไลโคพีน - สารสกัดจากมะเขือเทศ (Lycopene)
    • สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract)
    • ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์ (Citrus Bioflavonoids)
    • เคอร์ซิติน (Quercetin)
    • ลิวทีน -สารสกัดจากดอกแมริโกลด์ (Lutein)
    • อินอสิทอล (Inositol)
ไลฟ์แพ็ก lifepak คืออะไร
ไล ฟ์แพ็ก (lifepak) คือ ผลิตภัณฑ์ "อาหารเสริมสุขภาพ" ที่ครบถ้วนด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ(สารต้านมะเร็ง) ประสิทะภาพสูง มีวิตามิน เกลือแร่ ไฟโตนิวเทรียนท์ (สารสกัดจากผักผลไม้) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในการส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง มีปริมาณสารอาหารที่เหมาะสมและร่างกายสามารถดุดซึมนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างเต็มที่

ไลฟ์แพ็ก (lifepak) ประกอบด้วย อาหารเสริม 5 สูตรในหนี่งเดียว
  1. ไลฟ์แพ็ก (lifepak) มีสูตร สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ต้านความเสื่อมของเซลล์ มี คาทีชิน กรดแอลฟา-ไลโปอิค ไลโคพีน วิตามินเอ เบต้า-แคโรทีน วิตามินอี วิตามินซี ซีลีเนียม สังกะสี ทองแดง
  2. ไลฟ์แพ็ก (lifepak) มีสูตร วิตามิน บี รวม ในสัดส่วนที่สมดุล มี วิตามิน บี1 วิตามิน บี2 วิตามิน บี6 วิตามิน บี12 ไนอาซิน โฟเลต ไบโอทิน กรดแพนโทธีนิค
  3. ไลฟ์แพ็ก (lifepak) มีสูตร สารสกัดจากพืช ผัก ผลไม้ (สาร ไฟโตนิวเทรียนท์) มี เบต้าแคโรทีน กรดแอลฟา-ไลโปอิค ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์ ลิวทีน ไลโคพีน สารสกัดจากเมล็ดองุ่น เคอร์ซิติน คาทีชิน
  4. ไลฟ์แพ็ก (lifepak) มีสูตร สารอาหารจำเป็นต่อการสร้างกระดูก มี แคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินดี วิตามินเค ซิลิคอน
  5. ไลฟ์แพ็ก (lifepak) มีสูตร เสริมเกลือแร่และ สารอาหารจำเป็นต่อร่างกายครบครัน มี ซีลีเนียม ทองแดง แมงกานิส โครเมียม โมลิบดินั่ม แมกนีเซียม ซิลิคอน ไอโอดีน เหล็ก แคลเซียม อินอสิทอล
8 คุณประโยชน์ที่ร่างกายได้รับ จากการเสริมอาหารด้วย Lifepak 5 สูตรในหนึ่งเดียว คือ
  1. ช่วยป้องกันการขาดสารอาหาร
  2. ปกป้องและชะลอการเสื่อมของเซลล์
  3. ส่งเสริมการทำงานของหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด
  4. บำรุงและเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
  5. ดูแลการเผาผลาญกลูโคสและอินซูลินที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  6. ส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
  7. ส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรงในระยะยาว
  8. ส่งเสริมสุขภาพผิวพรรณ
ผลิตภัณฑ์ "อาหารเสริมสุขภาพ" Lifepak ได้รับการรับรองความปลอดภัย, ประสิทธิภาพและคุณภาพในการควบคุมการผลิต จากสถาบันที่มีชื่อเสียง ในการตรวจสอบมาตรฐานระดับสูง ของผลิตภัณฑ์ "อาหารเสริมสุขภาพ" จากสถาบันระดับโลก เช่น

Physician's Desk Reference Guide (PDR) "อาหารเสริมสุขภาพ" Lifepak ได้ลงหนังสือ Physician's Desk Reference Guide (PDR) ซึ่งเป็นหนังสืออ้างอิงทางการแพทย์ ที่แพทย์ และ บุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลก ใช้เป็นหนังสืออ้างอิง ตั้งแต่ อดีต จนถึง ปัจจุบัน

ConsumerLab.com certication ผลิตภัณฑ์ "อาหารเสริมสุขภาพ" Lifepak ได้รับการรับรอง ในด้านความถูกต้องของฉลาก และปราศจากสารปนเปื้อน รวมถึงสารต้องห้าม ตามโปรแกรมการตรวจสอบสารต้องห้าม ของนักกีฬา

Banned Substances Control Group (BSCG) รับรองว่า ผลิตภัณฑ์ "อาหารเสริมสุขภาพ" Lifepak เป็นผลิตภัณฑ์ ที่ปราศจากสารกระตุ้น เช่น อีฟีดริน สารโด๊ป และสารสเตียรอยด์อื่นๆ ซึ่งเป็นสารต้องห้าม ตามข้อกำหนดของสถาบันการกีฬา ที่มีชื่อเสียงหลายสถาบัน เช่น คณะกรรมการโอลิมปิคนานาชาติ

ถ้าอยากได้สารอาหาร ที่เพียงพอสำหรับการดูแลสุขภาพ คุณอาจต้องรับประทานอาหารให้ได้ เท่ากับผัก และ ผลไม้ เท่ากับที่เห็นในภาพนี้ในแต่ละวัน หรือเลือกรับประทาน ผลิตภัณฑ์ "อาหารเสริมสุขภาพ" Lifepak ง่ายๆ เพียงวันละ 2 ซอง


ผลิตภัณฑ์ "อาหารเสริมสุขภาพ" Lifepak
ทานไลฟ์แพ็ก (lifepak) แล้วจะหมดห่วง จากโรคเรื้อรังต่างๆ ว่าแต่
วันนี้คุณทาน Lifepak แล้วหรือยัง


.

.