เมื่อปัญหาของโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายคุกคามคุณ (เช่น : โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ, โรคเส้นเลือดในสมองตีบ, คลอเรสเตอรอลสูง, ความดันสูง, โรคไขมันเกาะตับ, โรคไขมันเกาะไต, ไขมันในหลอดเลือดสูง, โรคตับ, ตับอักเสบ, ไตอักเสบ, โรคหอบหืด, โรคลมชัก, โรค SLE, โรคไขข้อ, โรค Bechet, โรคผิวหนังอักเสบแพ้ง่าย, โรคไขข้อ, วัยทอง, ปวดประจำเดือน, มีถุงน้ำที่เต้านม รังไข่, มีบุตรยาก, อ้วน, โรคไทยรอยด์, อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า, ต่อมลูกหมากโต, โรคเบาหวาน, เอดส์ (AIDS) หรือ HIV, โรคพุ่มพวง หรือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง, อัมพาต อัมพฤกษ์, โรคเก๊า, โรคสะเก็ดเงิน, โรคเรื้อนกวาง, โรคภูมิแพ้, Sex เสื่อม, หย่อนสมรรถภาพทางเพศ, เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ) เรามีคำตอบให้คุณ ว่าต้องทำอย่างไร จึงจะสามารถอยู่กับโรคเหล่านี้ได้อย่ามีความสุข

Note:
อาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค อาหารเสริมเพียงช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตอยู่กับโรคที่เป็นอยู่ได้อย่างมีความสุข และ มีสุขภาพแข็งแรง

.

.
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Nu Skin แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Nu Skin แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ผมร่วง, หัวล้าน ปัญหาใหญ่ด้านบุคลิกภาพ ได้เวลาที่จะกำจัดจุดอ่อนแล้ว!!!

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน จริงๆ เรื่องของบทความนี้เนี่ย ผมได้ไอเดียมาจากรุ่นพี่ท่านนึง ซึ่งอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ ที่ปัจจุบันนี้รุ่นพี่ท่านนี้ของผม ประสบกับปัญหาผมร่วง จนตอนนี้ผมบางลงไปมาก หลังจากที่ผมได้เจอกับพี่เค้าแล้ว ทำให้ผมนึกถึงคุณสมบัติหนึ่งของเครื่อง Galvanic Spa ขึ้นมา ว่ามันสามารถทำงานเกี่ยวกับด้านนี้ได้ด้วยนี่นา

สำหรับใครที่ลืมไปแล้วว่าเครื่อง Galvanic Spa คืออะไร ผมแนะนำให้ลองกลับไปอ่านบทความเรื่อง Galvanic Spa Technology เทตโนโลยี D-TOX ผิว เพื่อการแก้ปัญหาผิวอย่างยั่งยืน อีกครั้งหนึ่ง แล้วจะเข้าใจเรื่องของ Galvanic Spa ได้ดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ

ทีนี้ สำหรับบทความนี้ ผมจะขอเน้นในเรื่องของการใช้เครื่อง Galvanic Spa สำหรับบำรุงรักษารากผม และ เส้นผมเพื่อให้แข็งแรง ลดการหลุดร่วง และ เสริมสร้างเส้นผมใหม่ให้แข็งแรงเป็นหลักนะครับ

ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการหลุดร่วงของเส้นผม ผมว่า เรามาทำความรู้จักกับเส้นผมเราก่อนดีกว่านะครับ

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เส้นผมนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
ส่วนประกอบหลักๆของผมประมาณ 65% - 95% คือ โปรตีนชื่อสารเคอราติน keratin ที่ให้ความแข็งแรง ส่วนที่เหลือจะเป็นสารประกอบอื่นๆ เช่น amino acid, ไขมัน, น้ำ และ เซลเม็ดสี เพราะฉะนั้น หากคุณต้องการ ให้ผมสวยและมีสุขภาพแข็งแรง ก็อย่าลืมรับประทาน อาหารประเภทโปรตีน เพื่อบำรุงเส้นผม ส่วนลักษณะของผมจะหยิกหรือตรง แข็งหรือนิ่ม เส้นใหญ่หรือเล็ก มีสีสันเป็นอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม ของเผ่าพันธุ์ เชื้อชาติที่แต่ละบุคคล ได้รับมาจากบรรพบุรษของตนนั่นเอง โดยประมาณผมบนศรีษะเราจะมีเฉลี่ยราว 80,000 - 120,000 เส้น ในคนที่มีผมหนาอาจมีผมถึง 150,000 เส้นเลยทีเดียว เส้นผมแต่ละเส้นก็จะมีวงจร (Hair Cycle) หรือ วัฏจักรในการงอก และหลุดร่วงอยู่ 3 ระยะด้วยกันอันได้แก่
  1. ระยะแอนนาเจน เป็น ช่วงระยะเวลาที่ผมของเรางอกงามนั้นเอง ซึ่งช่วงนี้ จะมีระยะเวลายาวนานราว 3-7 ปีต่อเส้นโดยเฉลี่ย เช่น ในวันเด็กระยะแอนนาเจนอาจจะยาวนาน 7 ปี แต่พออายุมากขึ้นระยะแอนนาเจนก็จะน้อยลงเหลือ 5 ปี ถ้าร่างกายเข้าสู่วัยชราระยะแอนนาเจน ของผมอาจจะเหลือเพียง 3 ปีเป็นต้น ในระยะนี้ผมของเราจะงอกเร็วประมาณ 1 เซนติเมตรต่อเดือน
  2. ระยะคะทาเจน เป็นระยะหยุดงอก ในระยะนี้เส้นผมจะขาดอาหารมาเลี้ยง ทำให้ต่อมผมหดเล็กลงและหยุดทำงานนานประมาณ 7-10 วัน
  3. ระยะเทโลเจน หรือ ระยะพัก ซึ่งเมื่อผมพ้นจากระยะหยุดงอกแล้ว ก็จะหลุดร่วงไปเข้าสู่ระยะพักซึ่งกินเวลาราว 3 เดือน โดยปกติแล้วผมประมาณ 10% จะอยู่ในระยะนี้ ในทุกๆขณะของชีวิตเราผมคนเราจึงร่วงไม่พร้อมกัน
และนี่จึงเป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้เราเข้าใจวงจรของผมมากขึ้น และ ทำให้เราเข้าใจว่า ทำไมเราถึงต้องใช้เวลา ในการรักษาอาการผมร่วงผมบางนาน 3 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผล ก็เพราะเจ้าช่วงระยะพักนี่เอง ที่ใช้เวลานานถึง 3 เดือน

สาเหตุของผมร่วง ผมบาง หัวล้าน
  1. ผมร่วงจากสุขภาพ และสารเคมี
    • ฮอร์โมน และ กรรมพันธ์ เช่น คนวัยกลางคนโดยเฉพาะผู้ชาย อาจจะเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศชายที่มีมากเกินไป ส่วนมากเป็นกรรมพันธุ์ ทำให้ทำให้ เส้นผม มีอายุสั้นกว่าปกติ และ เส้นผม ที่เกิดใหม่มีขนาดเล็กและบางลง เห็นเป็นเส้นขนอ่อน ๆ ทำให้บริเวณนั้นดู ผมบาง ลง ส่วนมากจะเป็นบริเวณกลางศีรษะ และหน้าผาก เริ่มสังเกตได้เมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป
    • การที่เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหนังศีรษะน้อย ทำให้หนังศีรษะตึงและแข็ง เมื่อเส้นผมมีเลือดไปเลี้ยงไม่พอ รากผมจะค่อยๆ ตายและหลุดออกมา
    • ผมร่วง จากโรคอื่นๆ ผู้ป่วยที่เป็นโรคบางอย่าง เช่น โรคเอสเอลอี , โรคมะเร็ง, โรคเชื้อราบนหนังศีรษะ, โรคทางต่อมไทรอยด์, โรคไทฟอยด์, โรคซิฟิลิส, โรคไต เป็นต้น ก็อาจมีอาการ ผมร่วง ผมบาง ร่วมกับ อาการของโรคเหล่านี้ เช่น เป็นไข้เรื้อรัง ปวดตามข้อ มีผื่นปีกผีเสื้อขึ้นที่หน้า ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น
    • ผมร่วง จากเชื้อรา โรคเชื้อราที่ศีรษะ (กลากที่ศีรษะ) อาจพบได้บ่อยในเด็ก แต่จะไม่ค่อยพบในผู้ใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อรา ซึ่งมักจะลุกลามจากบริเวณอื่นของร่างกาย โรคนี้ทำให้ ผมร่วง เป็นหย่อม ๆ คล้ายโรคผมร่วงหย่อมไม่ทราบสาเหตุ แต่จะมีลักษณะขึ้น เป็นผื่นแดง คันและเป็นขุยหรือสะเก็ด นอกจากนี้มักจะพบร่องรอยของโรคเชื้อรา (กลาก) ที่ มือ เท้า ลำตัวหรือในบริเวณร่มผ้าร่วมด้วย การขูดเอาขุยที่หนังศีรษะ หรือเอา เส้นผม ในบริเวณนั้นมา ละลายด้วยน้ำยาโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ (KOH) แล้วส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะพบเชื้อราที่เป็นสาเหตุ
    • ผมร่วง จากยาและการฉายรังสี ยาที่อาจทำให้เกิดอาการ ผมร่วง มีอยู่หลายชนิด เช่น ยารักษามะเร็ง, ยาป้องกันการแข็งตัว ของเลือด (anticoagulants) เช่น เฮพาริน (Heparin), ยารักษาคอพอกเป็นพิษ, ยาคุมกำเนิด,คอลชิซีน, อัลโลพูรินอล (Allopurinol) ซึ่งใช้ป้องกันโรคเกาต์, แอมเฟตามีน (Amphetamine) เป็นต้น นอกจากนี้ การฉายรังสีในการรักษามะเร็ง ก็อาจทำให้ ผมร่วง ได้
  2. พฤติกรรมและการดูแลเส้นผม
    • ผมร่วง จากการทำผม การทำ ผม ด้วยการม้วน ผม ดัดผม เป่าผม หรือวิธีอื่น ๆ อาจทำให้มีอาการ ผมร่วง ได้ บางรายถึงขั้นรุนแรงขนาดอยู่เฉย ๆ ก็เห็น ผมร่วง หล่นลงมาอย่างเห็นได้ชัด 
    • ผมร่วง จากการถอนผม พบได้บ่อย ในเด็กที่มีปัญหากดดันทางจิตใจด้วย สาเหตุต่าง ๆ เช่น ปัญหาทางครอบครัว ปัญหาการเรียน เป็นต้น เด็กบางคนอาจถอนผมเล่นจนเป็นนิสัย โดยไม่มีปัญหาทางจิตใจก็ได้ (เรียกอาการนี้ว่า Trichotillomania) ผู้ป่วยจะถอนผมตัวเองเล่น จน ผมร่วง หรือ ผมแหว่ง บางคนอาจเอามาเคี้ยวกินเล่น ถ้ากินมากๆ อาจทำให้เกิดการอุดตัน ของกระเพาะลำไส้ได้ เด็กบางคนอาจถอนผมเฉพาะตอนก่อนนอน ซึ่งจะพบว่ามีเส้นผมตกอยู่ตามหมอนทุกวัน เส้นผมเหล่านี้จะไม่มี ต่อม รากผม หนังศีรษะบริเวณที่ ผมร่วง จะไม่มีผื่นคัน หรือเป็นขุย และจะพบเส้นผมที่เป็นตอสั้นๆ อยู่มาก เนื่องจากผู้ป่วยถอนออกไม่ถนัด
    • ผมร่วงจากการขาดการดูแลเอาใจใส่ เช่น ใช้แชมพูที่เป็นด่างแก่ ใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของน้ำหอม สารบำรุงผม สารเคมี ฯลฯ ที่วุ่นวายมากเกินไป จนระคายเคืองกับหนังศีรษะ การดัด การย้อม โกรก ยืด การเป่าผมทุกวัน ฯลฯ
    • ผมร่วงจากความเครียด 
    • รอยแผลเป็นที่หนังศีรษะ อาจเกิดจากบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ถูกสารเคมี หรือเกิดจากการติดเชื้อ รุนแรงจากแบคทีเรีย (เช่น ฝี พุพอง ชันนะตุ) เชื้อรา (เช่น กลาก) หรือ งูสวัด ทำให้เป็นแผลเป็น ไม่มี ผม ขึ้นอย่างถาวร
  3. ภาวะขาดสารอาหาร
    • สภาวะการขาดเบต้าแคโรทีน วิตามินอี วิตามินบี โดยเฉพาะบี 6 กรดโฟลิก ไบโอติน PABA
  4. ผมร่วง ตามธรรมชาติ
    • โดยปกติแล้ว เส้นผม ของคนเรามีประมาณ 80,000 - 1,200,000 เส้น จะมีประมาณ 85-90% ที่อยู่ในช่วงที่มีการเจริญงอกงาม และยาวขึ้นวันละประมาณ 0.35 มิลลิเมตร และมีอายุนาน 2-6 ปีโดยปกติคินเราจะมี ผมร่วง เป็นประจำทุกวัน แต่ไม่เกินวันละ 30-50 เส้น ซึ่งถือว่าเป็น ผมร่วง ตามธรรมชาติ หลังจากนั้นก็มีเส้นผมใหม่งอกขึ้นมาแทน วนเวียนไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับเซลล์ของผิวหนังที่มีบางส่วนที่ตาย และหลุดลอกออกมาเป็นขี้ไคลทุกวัน
  5. ผมร่วง เนื่องจาก ผมหยุดเจริญชั่วคราว ปกติ เส้นผม ของคนเราจะมีอายุนาน 2-6 ปี แล้วจะหยุดการเจริญงอกงาม ในแต่ละวันจึงมี เส้นผม ประมาณ 10%-15% ที่เสื่อมและหลุดร่วงไปแต่ในบางภาวะ เส้นผม ที่กำลังเจริญอาจหยุดการเจริญในทันที ทำให้มี เส้นผม เสื่อมและหลุดร่วงเพิ่มจำนวนมากกว่าปกติ (เช่น เพิ่มเป็น 30%) ดังนั้นจึงทำให้เกิดอาการ ผมร่วง มากกว่าปกติได้ สาเหตุที่ทำให้ผมหยุดการเจริญชั่วคราว ที่พบได้บ่อย เช่น
    • ผู้หญิงหลังคลอด มัก ผมร่วง หลังคลอดประมาณ 3 เดือน เนื่องจากขณะคลอด เส้นผม บางส่วนเกิดหยุดการเจริญในทันที ต่อมาอีก 2-3 เดือน ผม เหล่านี้ก็จะร่วง
    • ทารกแรกเกิดอาจมีอาการ ผมร่วง ในระยะ 1-2 เดือนแรก แล้วจะค่อย ๆ มี ผม งอกขึ้นใหม่
    • เป็นไข้สูง เช่น ไข้รากสาดน้อย ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ เป็นต้น จะมีอาการ ผมร่วง หลังเป็นไข้ ประมาณ 2-3 เดือน
    • ได้รับการผ่าตัดใหญ่
    • เจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น วัณโรค, เบาหวาน , โลหิตจาง, ขาดอาหาร เป็นต้น
    • การเสียเลือด การบริจาคเลือด
    • การใช้ยา เช่น ยาคุมกำเนิด, อัลโลพูรินอล, โพรพิลไทโอยูราซิล, เฮพาริน เป็นต้น
    • ภาวะเครียดทางจิตใจ เช่น ตกใจ เสียใจ เศร้าใจ เป็นต้นผู้ป่วยจะมีอาการ ผมร่วง มากผิดปกติ (มากกว่าวันละ 100 เส้น) ลักษณะร่วงทั่วศีรษะ ซึ่งมักจะมีอาการตามหลัง สาเหตุเหล่านี้ประมาณ 2-3 เดือน และอาจจะเป็นอยู่นาน 2-6 เดือน ก็จะหายได้เองอย่างสมบูรณ์
จากข้อมูลข้างต้นเราจะเห็นว่าสาเหตุของ ผมร่วง และ ผมบางนั้น มีได้หลายสาเหตุมาก หากต้องการจะแก้ไขสาเหตุให้ถูกต้องตรงจุด จะต้องได้รับการวินิจฉัยจากผู้เชี่ยวบาญ ซึ่งการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง และ หัวล้านนั้น ถ้าไม่ได้เกิดจากโรค และ อยู่ในลักษณะที่เรียกว่าหัวล้านชั่วคราว แล้วล่ะก็มักจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่หลักหลายหมื่นบาทขึ้นไป สำหรับอาการผมร่วงศรีษะล้านถาวร เป็นอาการศีรษะล้านที่มีสาเหตุเกิดจากกรรมพันธุ์เป็นหลัก ซึ่งเป็นสาเหตุ ที่พบได้มากที่สุดถึง 90-95% ทีเดียว ศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์มีลักษณะเฉพาะ ที่ไม่เหมือนกับ ศีรษะล้านชนิดอื่น ลักษณะการหลุดร่วงของเส้นผมจะมี pattern หรือ ลักษณะเฉพาะ ในการหลุดร่วง ที่แน่นอน ซึ่งในทางการแพทย์เรียกว่า Male Pattern Hair Loss หรือเรียกสั้นๆว่า MPHL สำหรับอาการที่เกิดในเพศชาย ส่วนลักษณะอาการหลุดร่วงในเพศหญิงก็จะเรียกว่า Female Pattern Hair Loss นั้นเอง การหลุดร่วงของเส้นผมในลักษณะนี้ เพียงใช้การสังเกตก็พอจะบอกได้ ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องอาศัยการตรวจสภาพหนังศีรษะหรือวิเคราะห์เส้นผม แต่ประการใด ในผู้ชายมักจะเริ่มจากการร่นถอยของแนวผม ทางด้านหน้าเข้าไปเป็นง่าม หรืออาจเถิกลึกเข้าไป ตลอดทั้งแนว หรือ หัวเถิกนั่นเอง ต่อมาจะเกิดศีรษะล้านด้านหลัง ตรงบริเวณขวัญที่หลายคนมักเรียกว่าไข่ดาว ถ้าเป็นมากขึ้น ศีรษะล้านทางด้านหน้ากับด้านหลัง จะมาเชื่อมกัน จนกลายเป็นศีรษะล้านบริเวณกว้าง แต่ใน บางรายอาจมีผมร่วง ผมบางเฉพาะตรงกลางๆศีรษะเท่านั้น แต่แนวด้านหน้ายังดีอยู่

สำหรับประเทศไทย มีการจัดแบ่งเรื่องของหัวล้านไว้ 7 ประเภทดังนี้
  1. ทุ่งหมาหลง

    หัวล้านประเภทนี้ คือ หัวล้านที่ล้านอย่างมากๆ ล้านเกือบหมด มีผมเฉพาะตรงตีนผม ทั้งสองข้าง เท่านั้น คือหัวล้านอย่างมาก จนหากเราเอาหมาไปปล่อยลงตรงกลางหัว หมาก็ต้องหลงทาง หาทางกลับบ้านไม่ได้ เพราะจะกำหนดที่หมายไม่ได้เลยว่าทิศไหนเป็นซ้ายขวาหน้าหลัง เรียกว่าถ้าเป็นทุ่งก็มองไปจรดขอบฟ้าได้ทุกทิศ ไม่มีที่หมายให้รู้

  2. ดงช้างข้าม
    คือหัวล้านเป็นทาง จากหน้าผากไปถึงท้ายทอย อาจมีสัณฐาน เหมือนแม่น้ำที่มีปากน้ำอยู่เหนือหน้าผากก็ได้ หากเปรียบผมเป็นดง รอยหัวล้านก็เปรียบเป็นทางเดินของช้างความกว้างของทางจะมากน้อยแคบ กว้างเท่าไร ก็ได้ แต่จะไม่ตกขอบ คือช้างยังมองเห็นแนวป่าอยู่ทั้งสองข้าง หากไม่เห็นแนวป่าก็จะเข้าแบบทุ่งหมาหลง นั่นเองครับ
  3. ง่ามเทโพ
    คือล้านเถิกเข้าไปสองข้างขมับ มีผมอยู่ตรงกลางเหนือกระหม่อม ไปจนถึงด้านหลัง
  4. ชะโดตีแปลง
    คือหัวล้านที่เป็นวงกลมกลางกบาล มีผมโดยรอบทั้งซ้ายขวา หน้าหลัง เหมือนปลาชะโดตีแปลงจนน้ำกระเซ็นออกไปรอบทิศ หากน้ำน้อยจนเกือบเป็นโคลนตมแล้ว ชะโดตีแปลงก็จะมีส่วนน้ำขังเป็น วงกลม หัวล้านแบบนี้จึงต้องมองด้านบนจึงจะชัดเจน
  5. แร้งกระพือปีก
    คือล้านที่เถิกเข้าไปสองข้างขมับลึกเข้าไปโอบกระหม่อม ไปต่อกับ ด้านหลังเหลือกระจุกผมอยู่เพียงด้านหน้า เหมือนโดนปีกของแร้ง มากระพือรวมไว้
  6. ฉีกขวานฟาด (หรือบางตำราเรียกว่า ฉีกหางฟาด)
    หัวล้านแบบนี้หมายความว่าล้านไม่เลื่อมคือยังมีผมบางๆอยู่ อุปมาเหมือน ฉีกหาง (ปลา หรือวัว) ฟาดลงไปจะเห็นเป็นเส้นเป็นแนวอยู่ ส่วนที่เป็นเวิ้งผมอาจมีขอบรูปหาง ไปจนจรดท้ายทอยก็ได้
  7. ราชคลึงเครา
    หัวล้านนี้บางทีเห็นสะกดคำ คลึงเป็นครึง ก็มี แต่ไม่คิดเห็นความหมายส่วนราชคลึงเครา ก็หมายว่าพระราชาลูบเครานั่นเอง หัวล้านแบบนี้คงจะหมายถึงล้านแบบต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว เพียงแต่เพิ่มว่า มีหนวด และเครา เกินธรรมดาเข้าไป คนหัวล้านชนิดนี้จะมีขนหน้าอกดก อีกต่างหาก ตัวในเรื่องที่มีลักษณะล้านอย่างนี้ก็คือ "ขุนช้าง" นั่นเองครับ
พูดถึงเรื่องหัวล้านซะยาวเลย ทีนี้เรามาเข้าเรื่องของเราดีกว่า

หลังจากที่ทราบสาเหตุของหัวล้าน และ ลักษณะต่างๆของหัวล้านแล้ว ทีนี้เรามาดูวิธีการป้องกัน และ รักษาอาการหัวล้านกันดีกว่าครับ อย่าลืมนะครับว่า บทความนี้เราจะพูดถึงเรื่องการป้องกัน และ รักษาอาการหัวล้าน โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Galvanic Spa กัน สำหรับอุปกรณ์ก็มีดังนี้


หัว SPA ที่ใช้สำหรับกระตุ้นเซลล์เส้นผม และ นวดกระตุ้นหนังศรีษะ


เครื่อง Galvanic Spa System II พระเอกของเรา
เมื่อเปลี่ยนไปใช้หัว SPA สำหรับใช้กับเส้นผมเรียบร้อยแล้ว


Nutriol Shampoo & Nutriol Hair Fitness Treatment
ผู้ช่วยที่ขาดไม่ได้ สำหรับภาระกิจสำคัญเช่นนี้

และ สำหรับผู้ที่ได้มีโอกาสใช้งานเครื่อง Galvanic Spa Hair Treatment แล้ว ได้ผลดังนี้





ภาพผลที่ได้จากการใช้ชุด Nutriol shampoo & Nutriol Hair Fitness Treatment

เป็นอย่างไรครับ ผลลัพท์ อันน่าอัศจรรย์ ที่ไม่ต้องเสียเงินแพงๆ ไม่ต้องเจ็บตัวผ่าตัด แต่ได้ผลลัพท์เท่ากับ หรือ ดีกว่าการเสียเงินแพงๆ หรือ เข้ารับการผ่าตัดปลูกผม ซึ่งไม่แน่ว่าปลูกแล้วจะดีขึ้นจริงๆ


วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ageLOC® BODY SPA - เพื่อหุ่นสวย และ ผิวที่เรียบลื่น

จากเทคโนโลยีระดับสูงของสปาชั้นนำ มาเป็นอุปกรณ์ดูแลรูปร่างที่ใช้งานง่าย สะดวก และ สามารถทำได้เองที่บ้านของคุณ

ageLOC® BODY SPA SYSTEM III

ด้วย 3 ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่มีสูตรผสมด้วยเทคโนโลยีเอจล็อก (ageLOC®) ที่ประสานการทำงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ร่างกายกระชับ ผอมเพรียว และ เรียบเนียนอย่างที่ใจคุณปรารถนา

กัลวานิค บอดี้ ซิสเต็ม III (Galvanic Body System III)


นวัตกรรมอัจฉริยะ ที่ผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเอจล็อก (ageLOC® Technology) เพื่อการดูแลรูปร่างระดับสูง ด้วยการออกแบบเป็นพิเศษ ให้เหมาะสำหรับการทำทรีตเม้นต์ผิวกายด้วยผิวสัมผัสขนาดใหญ่ และ ความถี่กระแสกัลวานิค แบบรูปคลื่น เพื่อกระตุ้นการทำงาน ในการต่อต้านความเสื่อมชรา ของผิวกายด้วยการส่งสารเอจล็อคเข้าสู่ผิวกายได้มากถึง 10 เท่า เพื่อประสิทธิภาพในการขจัดเซลลูไลท์ ที่รวมตัวหนาแน่นตามบริเวณ ต้นแขน หน้าท้อง และ ต้นขา
เอจล็อค บอดี้ เช็ปปิ้ง เจล (ageLOC® Body Shaping Gel)
ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาใช้ร่วมกับ กัลวานิค บอดี้ ซิสเต็ม III (Galvanic Body System III) เพียงสัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง สามารถลดเลือน และ ทำให้ผิวที่เต็มไปด้วยเซลลูไลท์ เรียบเนียน กระชับ รวมถึงปรับสภาพผิวโดยรวม ให้ดูดี และ สังเกตุได้ถึงความแตกต่าง นอกจากนี้ เอจล็อค บอดี้ เช็ปปิ้ง เจล (ageLOC Body Shaping Gel) ยังช่วยกระตุ้นเซลล์ผิว เพื่อฟื้นฟู และ ทำความสะอาดผิวด้วยการกำจัดของเสีย ออกจากเซลล์ผิว ไปพร้อมๆกับลดสัญญาณแห่งวัยที่ผิวกาย
เอจล็อค เดอร์มาติด เอฟเฟ็คส์ (ageLOC® Dermatic Effects®)
สร้างสรรค์ขึ้นด้วย การนำเทคโนโลยีเอจล็อก (ageLOC® Technology) ที่สุดแห่งการต่อต้านความเสื่อมชรา มอบประสิทธิภาพเอจล็อค (ageLOC®) ที่เข้าบำรุงผิวกายได้ทุกวันให้ผิวชุ่มชื้น และ สีผิวสม่ำเสมอ เพื่อเผยผิวใหม่ที่ดูสดใสเปล่งประกายตามธรรมชาติ พร้อมส่วนผสมที่ช่วยในการยับยั้ง การผลิต และ ก่อตัวของไขมัน ที่เป็นต้นเหตุให้ผิวไม่เนียนเรียบ และ เซลลูไลท์ ที่ผิวพร้อมกับคืนผิวกายที่แลดูเรียบเนียน
ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์เอจล็อค บอดี้ (ageLOC® Body System III)
  • ช่วยให้ผิวกายดูเรียบเนียน เซลลูไลท์ดูลดเลือนลง พร้อมคืนรูปร่างที่อ่อนเยาว์สมส่วนอีกครั้ง
  • ช่วยให้สัมผัสของผิวกายเรียบลื่น
  • เพิ่มความกระชับให้ผิวไม่หย่อนคล้อย
  • สภาพผิวโดยรวมดูดีขึ้น จนสามารถสังเกตุเห็นได้
  • ตรงเข้าจัดการที่ต้นเหตุของการเกิดความเสื่อมชรา
  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
ผลลัพท์จากการที่ได้ใช้ ผลิตภัณฑ์เอจล็อค บอดี้ (ageLOC® Body System III)













วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ageLOC Galvanic Body

สำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลายที่มีปัญหาเรื่องรูปร่าง อาจจะเป็นรูปร่างไม่ดี ไม่ได้สัดส่วน ตรงนู้นเยอะไปหน่อย ตรงนั้นย้อยไปนิ๊ด ตรงนี้ผิวก็ไม่เรียบ ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่กวนใจคุณผู้หญิงมาอย่างยาวนาน
จริงๆแล้วปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่เกิดจาก หลายๆปัญหารวมกัน โดยมากมักจะเกิดจากการที่ผิวหนังขาดคอลลาเจน และ อิลาสติน หลังจากนั้นก็ถูกซ้ำเติมด้วยไขมันสะสมที่มากเกินไป
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ คอลลาเจน และ อิลาสติน กันก่อนดีกว่า

คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นสายยาว ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างจากสารโปรตีนโดยทั่วๆไปเช่นแดียวกับเอนไซม์ สายเส้นใยของคอลลาเจนถูกเรียกว่า คอลลาเจน ไฟเบอร์ (Collagen Fiber) ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสายเกลียวที่มีหน่วยโมเลกุลเกี่ยวพันกันมากมาย โดยปกติทั่วไปผิวหนังที่มีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างอยู่มากจึงมีแรงสปริงตัวและ ยืดหยุ่นได้ดีตามไปด้วย คอลลาเจนนั้นไม่ได้มีอยู่ที่ผิวหนังส่วนนอกเท่านั้น อวัยวะภายในร่างกายเอง ก็มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบอยู่มาก ได้แก่ ผังผืด (Fascia), กระดูกอ่อน (cartilage), เส้นเอ็น (ligaments), ข้อต่อ (tendons),กระดูก (bone) สารคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เคราติน Keratin

เคราติน (Keratin) นั้นมีหน้าที่สร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่น เมื่อสารเคราตินในชั้นผิวลดลง จึงเกิดริ้วรอยแห่งวัยขึ้นบนชั้นผิว, นอกจากนี้ เคราตินมีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้ผนังหลอดเลือด มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ รวมทั้งยังเป็นส่วนประกอบของเยื่อกระจกตาและเลนส์ตาด้วย Hydrolyzed Collagen เองยังถูกใช้งานในแง่ของการลดน้ำหนักได้ด้วย เนื่องจากเป็นส่วนประกอบของโปรตีนจึงมีข้อดีในการช่วยเผาผลาญพลังงานลดไขมันส่วนเกิน

อิลาสติน (Elastin) นั้นจะคล้ายคลึงกับคอลลาเจน แต่สามารถยืดได้มากกว่า ซึ่งอิลาสตินนั้น เป็นตัวทำให้ผิวหนังของเรามีความยืดหยุ่น และ นอกจากนี้อิลาสตินยังทำหน้าที่เป็นตาข่าย ที่มีโครงสร้างเป็นตัวช่วยยึดเซลล์ผิวต่างๆของเรา ให้มีการเรียงตัวกันได้ดี สำหรับอิลาสตินนั้นจะประกอบด้วยกรดอะมิโนที่สำคัญอยู่ 2 ตัวคือ เดสโมซีน (Desmosine) และ ไอโซเดสโมซีน (Isodesmosine) ซึ่งจะทำหน้าที่ให้ผิวของเรานั้นยืดออกและหดกลับที่เดินได้อย่างเหมาะสม
ดังนั้นถ้าจะให้เห็นภาพกันง่ายๆ และ ชัดเจน คอลลาเจน เปรียบได้กับความเด้งของผิว เช่น เวลาคุณตื่นนอนตอนเช้า รอยยับของหมอนอยู่บนใบหน้าของคุณนานแค่ไหน แน่นอนว่าถ้าเกิน 15 นาทีแล้วล่ะก็ แสดงว่าผิวของคุณมีคอลลาเจนน้อย ในขณะเดียวกัน อิลาสติน ก็เปรียบเสมือนความยืดหยุ่นของผิว เช่น คุณดึงผิวหนังใต้ท้องแขน หรือ ส่วนไหนก็ได้ให้ยืดออก และ ถ้าผิวไม่เด้งกลับที่เดิมแสดงว่า ผิวของคุณเริ่มที่จะขาดอิลาสติน
การขาดคอลลาเจน และ อิลาสติน คือ สาเหตุที่ทำให้ผิวของคนเราหย่อนคล้อย และ แห้งเหี่ยว สามารถสังเกตุได้จากผิวของผู้สูงอายุ ซึ่งผู้ที่มีอายุมาก คอลลาเจน และ อิลาสตินย่อมน้อยไปด้วย หากได้รับการดูแลที่ไม่ดีพอ

ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของคุณผู้หญิงคือ ผิวไม่เรียบเนียน ซึ่ง ปัญหานี้อาจจะมาได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่เป็นสิว มีสิ่งตกค้างในรูขุมขน ไปจนกระทั่งว่ามีไขมันสะสมใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเป็นแบบผิวมะกรูต หรือ ผิวลูกกอล์ฟ ปัญหาเหล่านี้ มีหลากหลายวิธีในการแก้ปัญหา แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ค่อยตรงจุดนัก

บริษัท นู สกิน ขอนำท่านสู่อนาคตด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย กัลวานิค บอดี้ ซิสเต็ม III (Galvanic Body System III) เทคโนโลยีล่าสุดที่ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำทรีตเมนต์บำรุงผิว ด้วยเทคโนโลยีการใช้กระแสกัลวานิค แบบรูปคลื่นที่มาพร้อมกับผิวสัมผัส ที่จะส่งประสิทธิภาพสารเอจล็อคเข้าสู่ผิวกายได้มากกว่าเครื่อง กัลวานิค ซิสเต็ม II (Galvanic SPA System III) ถึง 10 เท่า เมื่อใช้ร่วมกับเอจล็อค บอดี้ เชปปิ้ง เจล กัลวานิค บอดี้ ซิสเต็ม III (Galvanic Body System III) จะตรงเข้าจัดการที่ต้นเหตุของความเสื่อมชราของผิวกาย พร้อมกับลดการก่อตัวของไขมัน และ เซลลูไลท์ พร้อมทำให้ผิวกายเรียบเนียนดูผอมเพรียว และ สีผิวเนียนเรียบสม่ำเสมอ

ประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้เครื่อง กัลวานิค บอดี้ ซิสเต็ม III (Galvanic Body System III)
  • เป็นตัวส่งสารเอจล็อคเพื่อการต่อต้านความเสื่อมชราเข้าสู่ผิวกาย
  • เพิ่มประสิทธิภาพด้วยกระแสกัลวานิค แบบ รูปคลื่นที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิว ทำความสะอาดและขจัดของเสียออกจากเซลล์ผิวอย่างล้ำลึก อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิว และ ช่วยลดเลือดสัญญาณแห่งความเสื่อมชราที่ปรากฎ
  • ด้วยผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ให้เห็นว่า การทำทริตเมนต์ด้วยกระแสกัลวานิค สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสารเอจล็อคในชั้นผิวได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 24 ชั่วโมง
จากภาพจะเห็นว่ากระแสกัลวานิคแบบรูปคลื่นจะส่งลงไปจนถึงชั้นเซลล์ไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ตามภาพที่ 1 เมื่อเซลล์ไขมันส่วนเกินได้รับการกระตุ้น ทำให้เซลล์ไขมันเหล่านั้นแตกตัวออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้ร่างกายสามารถขับออกไปได้เอง โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ ซึ่งมีความปลอดภัยที่สูงมาก


ภาพด้านบน คือ ภาพบริเวณสะโพก, ก้น และ ต้นขา ของผู้ที่ร่วมทดลองใช้ จะเห็นว่า รูปร่างของบริเวณสะโพก, ก้น และ ต้นขา เปลี่ยนไป แลดูกระชับ และ ได้สัดส่วนมากขึ้น

นอกจากช่วยกระชับแล้ว เครื่อง กัลวานิค บอดี้ ซิสเต็ม III (Galvanic Body System III) ยังช่วยให้สะโพกของผู้ร่วมทดลองท่านนี้ดูกระชับ และ ได้รูปร่างที่เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น

จะเห็นได้ว่า หากคุณผู้หญิงท่านใดที่มีปัญหาเรื่องผิวไม่กระชับ ไม่เรียบเนียน รูปร่างไม่ได้สัดส่วน จากการที่ผิวขาดการดูแลจนขาดคอลลาเจน และ อิลาสติน หรือ มีไขมันสะสมจนกลายเป็นผิวมะกรูต หรือ ผิวลูกกอล์ฟแล้วล่ะก็ เครื่อง กัลวานิค บอดี้ ซิสเต็ม III (Galvanic Body System III) นั้น สามารถตอบโจทย์ให้ท่านได้อย่างแน่นอน

หากท่านใดสนใจ หรือ ต้องการข้อมูลอื่นใดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ตามเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่บนเว็บไซด์ ได้เลยครับ

ข้อมูลบางส่วนจาก : WikiPedia, เอกสารเผยแพร่ของบริษัท นู สกิน


Galvanic Spa Technology เทตโนโลยี D-TOX ผิว เพื่อการแก้ปัญหาผิวอย่างยั่งยืน

Nuskin ageLOC Galvanic Spa System II (ageLOC Version)

Nuskin ageLOC galvanic spa คือนวัตกรรมใหม่ที่นำความสะดวกสบายมาไว้ที่บ้าน โดยที่ไม่ต้องเสียเวลา เสียเงินทองไปทำสปานอกบ้าน เพียงแค่มีเครื่องมือนี้ ซึ่งพกพาสะดวก ใช้งานง่าย ด้วยอุปกรณ์สัมผัสทรงต่าง เลือกใช้ได้ตามความต้องการ ทั้งผิวหน้า ผิวกาย และหนังศีรษะ โดยออกแบบมาให้ใช้กับผลิตภัณฑ์ nuskin และใหม่ล่าสุด อุปกรณ์สัมผัสทรงใหม่สำหรับผิวหน้า ที่ทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพในการกระจาย treatment gel เพื่อที่จะซึมสู่ผิวหน้าได้มากกว่าถึง 5 เท่า เพื่อทำให้ประสิทธิภาพจาก ageloc เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

จุดเด่นของ Nuskin ageLOC Galvanic Spa รุ่นใหม่
อุปกรณ์สัมผัสทรงใหม่สำหรับผิวหน้า ที่ทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพในการกระจาย treatment gel เพื่อซึมสู่ผิวหน้าได้มากกว่าถึง 5 เท่า เพื่อทำให้ประสิทธิภาพจาก ageloc เป็นไปอย่างสมบูรณ์ กลไกอัจฉริยะของเครื่อง ถูกติดตั้งขึ้นเพื่อให้เหมาะสมที่สุดในการใช้ สารบำรุงผิวถูกส่งต่อเข้าไปในผิวหนังอย่างแม่นยำ ในปริมาณที่พอเหมาะ จอแสดงผลที่สว่างขึ้น ง่ายต่อการอ่านและการใช้งาน เสียงแสดงการทำงานของเครื่อง ทุกๆ 20 วินาที พร้อม เสียงเตือนเมื่อสิ้นสุดเวลาใช้งานและเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด

AgeLOC Galvanic Spa Facial Gel
นอกจากการออกแบบอุปกรณ์สัมผัส ใหม่ที่ทำให้สารบำรุงเข้าถึงชั้นผิวได้มากขึ้น แล้ว ageLOC spa facial gel ยังทำงานประกอบกันใน 2 ขั้นตอนคือ
ขั้นตอน ที่ 1 : ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองอุดตันต่างๆ รวมทั้งน้ำมันส่วนเกิน
ขั้น ตอนที่ 2 : การนำพาสารบำรุงผิวให้เข้าทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการให้สารสิทธิบัตร ageLOC เข้าสู่ผิวหนัง เพื่อความอ่อนเยาว์อย่างตรงจุด


Nuskin True Face Line Corrector
เครื่อง Nuskin galvanic spa กับอุปกรณ์สัมผัส spot treatment ใช้คู่กับ nuskin true face line corrector เพื่อประสิทธิภาพในการทำให้ผิวหน้าบริเวณริ้วรอยลึกนั้นตื้นขึ้น

Nuskin Galvanic Spa Body Shaping Gel
อุปกรณ์ สัมผัสทรงลูกคลื่นจะทำหน้าที่ได้ดี เมื่อใช้คู่กับ body shaping gel เพื่อกระตุ้นการสลายไขมันชั้นใต้ผิวหนังและลดการสะสมของไขมันใหม่ จึงช่วยกระชับและลดเซลลูไลท์อย่างได้ผล

Nuskin Nutrial Hair Fitness Treatment
Treatment สูตรเฉพาะที่มีส่วนประกอบสำคัญจากสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล (Tricalgoxly) ท่อุดมไปด้วย เคลพ ซัลเฟท โอลิโก ซักคาไรด์ ที่มีการศึกษาพบว่าเป็นสารที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะ รวมถึงเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผม และรากผม

หลักการทำงานของ เครื่อง Galvanic Spa
ที่ ตัวเครื่อง Nuskin galvanic spa นั้นเราสามารถเลือกได้ว่า จะให้เครื่องนั้นปล่อยประจุบวกหรือลบออกมา โดยในขั้นตอนแรกนั้นหลังจากที่เราทำการล้างหน้า และเตรียมเครื่องเรียบร้อยแล้ว ให้เราทำการทาตัว Pre - Treatment Facial Gel หลอดสีขาวให้ทั่วใบหน้า ซึ่ง Pre - Treatment Facial Gel นี้เป็นเจลที่ประกอบไปด้วยประจุลบ ดังนั้นให้เราทำการเซ็ตเครื่องให้ปล่อยประจุลบออกมา ประจุลบที่เครื่องสปาปล่อยออกมาจะทำการผลัก pre - treat gel ที่เป็นประจุลบเหมือนกันให้ลงไปยังชั้นใต้ผิวของเรา โดยกระแสไฟกัลวานิคนี้ จะช่วยส่งผ่านเจลให้ลงไปจับกับสิ่งสกปรก ในชั้นรูขุมขน ของเรา พอหลังจากครบตามกำหนดเวลาที่เราตั้งไว้ แล้วให้ทำการเช็ดหรือล้างหน้าออก
แล้ว ทีนี้ ก็ถึงทีของตัว Treatment Facial Gel หลอดสีฟ้า ซึ่งจะประกอบไปด้วยประจุบวก ให้เราทำการทา treatment gel ให้ทั่วใบหน้า หลังจากนั้นเซ็ตเครื่องสปาให้ปล่อยประจุบวกออกมา เมื่อเครื่องทำการปล่อยประจุบวกมาเจอกับตัว treatment gel ที่ประกอบด้วยประจุบวก กระแสไฟกัลวานิคจึงทำการส่งผ่าน treatment gel ให้ลงไปบำรุงลึกถึงชั้นใต้ผิวของเรา พร้อมทั้งทำการดึงดูดสิ่งสกปรกที่ถูกจับเอาไว้โดย pre - treatment gel ที่เป็นประจุลบในตอนแรกอีกด้วยครับ


การทำสปา ด้วย เครื่อง Galvanic Spa ของ Nuskin นี้สามารถเห็นผลหรือรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำเลย ครับ จากรูปเป็นการทำแค่ครั้งเดียว โดยเป็นการทดลองทำแค่ครึ่งหน้า จะเห็นได้ว่าร่องรอยที่ข้างแก้ม หางตาและใต้ตาจะดูตื้นขึ้น เรียบเนียนขึ้นกว่าถ้าเทียบกับข้างที่ไม่ได้ทำสปา ดังนั้นถ้าหากเรายิ่งทำบ่อยๆเป็นประจำก็ยิ่งยิ่งทำให้ร่องรอยต่างๆจางลง รวมถึงใบหน้าของเราดูดี ดูอ่อนกว่าวัยยิ่งขึ้นครับ


.

.