เมื่อปัญหาของโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายคุกคามคุณ (เช่น : โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ, โรคเส้นเลือดในสมองตีบ, คลอเรสเตอรอลสูง, ความดันสูง, โรคไขมันเกาะตับ, โรคไขมันเกาะไต, ไขมันในหลอดเลือดสูง, โรคตับ, ตับอักเสบ, ไตอักเสบ, โรคหอบหืด, โรคลมชัก, โรค SLE, โรคไขข้อ, โรค Bechet, โรคผิวหนังอักเสบแพ้ง่าย, โรคไขข้อ, วัยทอง, ปวดประจำเดือน, มีถุงน้ำที่เต้านม รังไข่, มีบุตรยาก, อ้วน, โรคไทยรอยด์, อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า, ต่อมลูกหมากโต, โรคเบาหวาน, เอดส์ (AIDS) หรือ HIV, โรคพุ่มพวง หรือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง, อัมพาต อัมพฤกษ์, โรคเก๊า, โรคสะเก็ดเงิน, โรคเรื้อนกวาง, โรคภูมิแพ้, Sex เสื่อม, หย่อนสมรรถภาพทางเพศ, เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ) เรามีคำตอบให้คุณ ว่าต้องทำอย่างไร จึงจะสามารถอยู่กับโรคเหล่านี้ได้อย่ามีความสุข

Note:
อาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค อาหารเสริมเพียงช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตอยู่กับโรคที่เป็นอยู่ได้อย่างมีความสุข และ มีสุขภาพแข็งแรง

.

.

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เอจล็อค ศาสตร์แห่งการชะลอวัย (THE SCIENCE OF AGELOC)

เทคโนโลยีสิทธิบัตรทางวิทยาศาสตร์
อีกขั้นของการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งของศาสตร์แห่งการต่อต้านริ้วรอย โดยความร่วมมือระหว่าง นู สกิน และ นักวิทยาศตร์ระดับโลก เพื่อศึกษาค้นคว้าวิจัย ถึงแหล่งกำเหนิดของยีนส์ ที่เป็นส่วนสำคัญของ ต้นตอจุดกำเหนิดของริ้วรอยแห่งวัย หรือ ที่เรียกว่า เออาร์ ซูเปอร์มาร์คเกอร์ (age related super markers/arSuperMarkers) พร้อมค้นพบนวัตกรรมที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง "เอจล็อก (ageLOC)" ที่มีคุณสมบัติโดยตรงกับ เออาร์ ซูเปอร์มาร์คเกอร์

จากการค้นพบนี้ ทำให้ นู สกิน สามารถบ่งชี้ และ วิเคราะห์ถึง เออาร์ ซูเปอร์มาร์คเกอร์ หรือ กลุ่มยีนส์แห่งความอ่อนเยาว์ (Youth Genes Clusters) โดยยีนส์กลุ่มนี้มีหน้าที่หลักในการกำหนดริ้วรอยแห่งวัย ซึ่งมีเพียง เอจล็อค ที่เป็นสิทธิบัตรทางวิทยาศาสตร์ของ นู สกิน เท่านั้น ที่เข้าใจถึงวิธีการทำงานของยีนส์กลุ่มนี้ ที่จะย้อนกลับกระบวนการทำงานเหมือนเช่นวัยเยาว์

สำหรับการค้นพบที่ยิ่งใหญ่นี้ เกิดขึ้นจากความร่วมือ ของนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำระดับโลก เพื่อพัฒนาศาสตร์แห่งการต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย รวมถึงการศึกษาด้านพันธุศาสตร์ที่ใช้เงินลงทุนวิจัยหลายล้านเหรียญสหรัฐ

เข้าถึงแหล่งกำเหนิด
จากหลักทางวิทยาศาสตร์ได้มีการค้นพบเกี่ยวกับยีนส์ของมนุษย์ แต่สำหรับ นู สกิน เราก้าวไปถึง เอจล็อค (ageLOC) ซึ่งเป็นอีกขั้นของศาสตร์การค้นพบ โดยความสำเร็จนี้เกิดขึ้น จากความร่วมมือระหว่าง นู สกิน และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านความชราโดยเฉพาะ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางพันธุ์ศาสตร์ ที่ได้ร่วมกันศึกษา และ เข้าใจถึงหลักการของแต่ละกลุ่มหลักของยีนส์ การจำแนกหน้าที่การทำงานของยีนส์แต่ละกลุ่ม เช่น กลุ่มยีนส์แห่งความอ่อนเยาว์ (Youth Genes Clusters) ซึ่งเป็นต้นตอของการก่อเกิดริ้วรอยแห่งวัยที่สำคัญ นู สกิน เชื่อว่าการค้นพบ และ การจำแนกหน้าที่การทำงานของกลุ่มยีนส์เหล่านี้ จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำเราออกจากต้นเหตุที่แท้จริงของริ้วรอย

ทั้งผลการวิจัยทางการแพทย์ การวิเคราะห์กลุ่มยีนส์ รวมถึงการทุ่มเทค้นคว้าเทคโนโลยี เอจล็อค ที่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมให้นักวิทยาศาสตร์ของ นู สกิน ได้ก้าวไปอีกชั้น สู่การค้นพบระบบการทำงานของกลุ่มยีนส์แห่งความอ่อนเยาว์ และ กระบวนการนี้ ก็มีผลโดยตรงต่อริ้วรอยที่ปรากฎบนผิวของเราด้วยเช่นกัน โดยวิทยาการ เอจล็อค ของ นู สกิน จะสามารถเข้าไปปรับกระบวนการทำงานของกลุ่มยีนส์เหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น พร้อมการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้ผิวอย่างสมดุลย์

กำเนิดใหม่แห่งความสมดุล
ความสำคัญของการคืนความอ่อนเยาว์ไม่ใช่อยู่แค่การจำแนก หรือ วิเคราะห์กลุ่มยีนส์ แต่ สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ความสามารถในการปรับความสมดุลของกลุ่มยีนส์แห่งความอ่อนเยาว์ (Youth Genes Clusters) ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยีนส์ ในกลุ่มนี้จะมีการทำงานที่แตกต่างกันคือ ยีนส์กลุ่มหนึ่งต้องปรับการทำงานให้เพิ่มขึ้น ในขณะที่อีกกลุ่มต้องปรับการทำงานให้ลดลง และ ด้วยเทคโนโลยี เอจล็อค ที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ นู สกิน คือ ศาสตร์เดียวที่มีความสามารถในการปรับสภาพของกลุ่มยีนส์ให้สมดุล เสมือนผิวกำเนิดใหม่ที่อ่อนเยาว์อีกครั้ง

ย้อนกระบวนการของกลุ่มยีนส์เพื่อกำเนิดใหม่ของผิวที่อ่อนเยาว์

กลุ่มยีนส์แห่งความอ่อนเยาว์ และ สัญญาณของความร่วงโรยทั้ง 8 ประการ
"เป็นที่ชัดเจนว่าการที่เราจะรักษาความอ่อนเยาว์ให้ปรากฎนั้น ยีนส์ก็ควรมีรูปแบบที่อ่อนเยาว์เช่นกัน ด้วยการวิเคราะห์เนื้อเยี่อของมนุษย์เกี่ยวกับพันธุศาสตร์ เราจึงเรียนรู้หน้าที่ความสำคัญของพฤติกรรม ของกลุ่มยีนส์ในการรักษาความอ่อนเยาว์"

ดร.โจเชฟ แชง (Dr.Joseph Chang)
หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ ประจำ นู สกิน
แผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์
ศาสตร์แห่งการค้นพบ
นู สกิน คือผู้นำของศาสตร์แห่งการต่อต้านความเสื่อมชรา ในการศึกษาของ นู สกิน ที่เกี่ยวกับกลุ่มยีนส์แห่งความอ่อนเยาว์ ทำให้ค้นพบอีกขั้น ของหลักการทางวิทยาศาสตร์ และ นำไปสู่การพัฒนาของผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย ที่กลายเป็นนิยามใหม่ของวงการ จากการเก็บตัวอย่างผิวหนัง และ เนื้อเยื่อของมนุษย์ในห้องทดลอง ทำให้นู สกิน เข้าถึงวิธีการสำคัญในการ รักษาความสมดุลของยีนส์ให้คงสภาพเพื่อคืนความอ่อนเยาว์ ซึ่งที่จริงแล้ว ในการที่เราจะสามารถคงสภาพผิวที่อ่อนเยาว์ได้นั้น เราจะต้องทราบถึงหลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างถ่องแท้ เพื่อการฟื้นฟูกระบวนการทำงานของยีนส์ให้คงสภาพความอ่อนเยาว์ที่สมบูรณ์

ก้าวแห่งอนาคต
จากความร่วมมือของผู้ก่อตั้งสถาบันวิจัยยีนส์ ไลฟ์ เจน เทคโนโลยี (LifeGen Technologies) ดร.ริชาจ เวนเดิร์ช (Dr.Richard Weidruch), ดร.โทมัส โพรล์ลา (Dr.Tomas Prolla) และ นู สกิน ที่ทุ่มเวลากว่า 30 ปี ในการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับกลุ่มยีนส์ที่มีผลต่อการปรากฎของริ้วรอย โดยผลการวิจัยแสดงให้เห็น ถึงการปฏิรูปใหม่ที่เกี่ยวข้องกับอาหารที่คนเรารับประทานเข้าไป หรือที่เรียกว่า Caloric Restriction ซึ่งเปรียบเหมือนเป็นกุญแจสำคัญที่นำเราเข้าถึงวิธีการรักษาความอ่อนเยาว์ โดยการค้นพบครั้งนี้ ถือเป็นการบุกเบิก และ เป็นบันทึกครั้งสำคัญของวงการวิทยาศาสตร์โลก

จากการศึกษาในเรื่องของการตอบสนองของยีนส์ และ เนื้อเยื่อต่างๆ ที่ได้รับจากอาหารที่รับประทานเข้าไป ช่วยให้ นู สกิน สามารถชี้ชัด และ ยีนยันถึงความเกี่ยวข้องระหว่างยีนส์ และ ความเสื่อมชรา โดยต่อยอดกระบวนการที่เรียนรู้นี้ไปสู่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปอีกในอนาคต

นู สกิน ยังมุ่งมั่นการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่อง และ จับมือร่วมกับ สถาบันการวิจัยรายใหม่ๆเพิ่มขึ้น เพื่อให้เป็นความเข้าใจที่ลึกซึ้งถึงบทบาทที่แสดงให้เห็นของกลุ่มยีนส์ รวมถึงผลกระทบจากความแปรผันของสภาพผิว ตามกาลเวลาได้อย่างชัดเจน เราเชื่อในศาสตร์ของ เอจล็อค (ageLOC) ว่าจะเป็นคำตอบของการต่อต้านความเสื่อมชรา และ เป็นการบุกเบิกทางวิทยาศาสตร์ ที่เหนือความคาดหมาย ด้วยการจัดการต้นกำเนิดแห่งริ้วรอยที่แท้จริง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

.

.