โรคกลีบกุหลาบมันเป็นยังไง
โรคนี้มีชื่อเรียกว่า pityriasis rosea บางคนเรียกผื่นกุหลาบ สะเก็ดกุหลาบ กลีบกุหลาบ หัดดอกกุหลาบ โรคขุยกุหลาบหรือเรียกว่าหัด 100วัน ก้อมี เป็นอีกโรคที่พบได้บ่อย พบมากที่สุดในช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ พบได้เท่าๆ กันในทั้งหญิงและชายแต่อาจพบในหญิงสูงกว่าชายเล็กน้อย โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดตอนนี้ที่ทราบได้สาเหตุน่าจะเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า pityriasis rosea มาจากลักษณะของผื่น คือ pityriasis หมายถึงขุยบางๆ (fine scales) และ rosea แปลว่า สีดอกกุหลาบหรือสีชมพู แต่เนื่องจากลักษณะผื่นและสีที่ปรากฎ มักพบได้เป็นวงรีหรือวงกลมรูปไข่ จึงอาจเรียกว่า โรคกลีบกุหลาบ
อาการอย่างไรที่เรียกว่า โรคกลีบกุหลาบ
โรคกลีบกุหลาบ (pityriasis rosea, PR) เป็นโรคผิวหนังที่มีผื่นลักษณะเฉพาะ และมีอาการเฉียบพลัน เริ่มแรกคนไข้จะเริ่มสังเกตตนเอง พบว่ามีผื่นคันขนาดประมาณ 2-6 เซนติเมตร สีชมพูหรือสีน้ำตาล มีขุย ครั้งแรกมักจะเป็นปื้นโดดๆ ที่ผิวหนังบริเวณใดก็ได้ของร่างกาย แต่พบได้บ่อยที่ตามหน้าอกหรือหลัง เรียกว่าผื่นแจ้งข่าวเกิดขึ้นนำมาก่อน
ต่อมาอีกหลายวัน จะเกิดผื่นเป็นปื้นที่มีสะเก็ดเป็นขุยๆ ตามมา ส่วนมากมักพบได้ในบริเวณ ที่ปกคลุมด้วยเสื้อผ้า ผื่นจะมีรูปรีๆ และส่วนยาวจะขนานไปกับ เส้นแยกของผิวหนัง ที่มักนิยมเรียกรอยโรคที่เรียงดูเหมือนคล้ายต้นคริสต์มาส ("Christmas tree" pattern) อาการสำคัญของโรคนี้ คือ อาการคัน ผู้ป่วยบางคนยิ่งร้อน ยิ่งเหงื่อออกมากจะยิ่งคันมาก ในบางรายอาจมีไข้และอ่อนเพลีย ผื่นนี้จะค่อยๆจางลง และ หายไปได้เองภายใน 6-12 สัปดาห์ และเมื่อเป็นครั้งหนึ่งแล้วก็มักจะไม่เป็นอีก ติดต่อโดยการสัมผัส โรคนี้มักหายได้เอง ไม่รุนแรง
รอยผื่นจะมีรูปรี ๆ และส่วนยาวจะขนานไปกับเส้นแยกของผิวหนังที่มักนิยมเรียกรอยโรคที่เรียงดูเหมือนคล้ายต้นคริสต์มาส ("Christmas tree" pattern)
การวินิจฉัยควรตรวจรักษาโดยคุณหมอผิวหนังครับ ในวัยรุ่นหรือในผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงจะต้องแยกโรคจากผื่นจากซิฟิลิสระยะที่ 2 จึงจำเป็นต้องตรวจเลือดดูว่าบวกหรือไม่เพื่อความแน่นอน
การรักษาโรคกลีบกุหลาบ
โรคนี้ไม่ใช่โรคร้ายแรงและอาการมักดีขึ้นเอง ผู้ป่วยแน่ใจสบายใจได้เลยครับว่าว่าโรคนี้จะทุเลาลงไปได้เอง ไม่มีการรักษาที่เฉพาะ แต่เรามักแนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการถูกน้ำ ห้ามอาบน้ำร้อนจัดหรือห้ามอาบน้ำอุ่นเด็ดขาด การมีเหงื่อออกและการสัมผัสสบู่ เพราะมักทำให้ผิวระคายเคือง และโรคมีอาการกำเริบ จะทำให้ผิวคุณจะยิ่งแห้งและคันมากขึ้น
ยาที่ใช้ในโรคกลีบกุหลาบ
โรคนี้มีชื่อเรียกว่า pityriasis rosea บางคนเรียกผื่นกุหลาบ สะเก็ดกุหลาบ กลีบกุหลาบ หัดดอกกุหลาบ โรคขุยกุหลาบหรือเรียกว่าหัด 100วัน ก้อมี เป็นอีกโรคที่พบได้บ่อย พบมากที่สุดในช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ พบได้เท่าๆ กันในทั้งหญิงและชายแต่อาจพบในหญิงสูงกว่าชายเล็กน้อย โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดตอนนี้ที่ทราบได้สาเหตุน่าจะเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า pityriasis rosea มาจากลักษณะของผื่น คือ pityriasis หมายถึงขุยบางๆ (fine scales) และ rosea แปลว่า สีดอกกุหลาบหรือสีชมพู แต่เนื่องจากลักษณะผื่นและสีที่ปรากฎ มักพบได้เป็นวงรีหรือวงกลมรูปไข่ จึงอาจเรียกว่า โรคกลีบกุหลาบ
อาการอย่างไรที่เรียกว่า โรคกลีบกุหลาบ
โรคกลีบกุหลาบ (pityriasis rosea, PR) เป็นโรคผิวหนังที่มีผื่นลักษณะเฉพาะ และมีอาการเฉียบพลัน เริ่มแรกคนไข้จะเริ่มสังเกตตนเอง พบว่ามีผื่นคันขนาดประมาณ 2-6 เซนติเมตร สีชมพูหรือสีน้ำตาล มีขุย ครั้งแรกมักจะเป็นปื้นโดดๆ ที่ผิวหนังบริเวณใดก็ได้ของร่างกาย แต่พบได้บ่อยที่ตามหน้าอกหรือหลัง เรียกว่าผื่นแจ้งข่าวเกิดขึ้นนำมาก่อน
ต่อมาอีกหลายวัน จะเกิดผื่นเป็นปื้นที่มีสะเก็ดเป็นขุยๆ ตามมา ส่วนมากมักพบได้ในบริเวณ ที่ปกคลุมด้วยเสื้อผ้า ผื่นจะมีรูปรีๆ และส่วนยาวจะขนานไปกับ เส้นแยกของผิวหนัง ที่มักนิยมเรียกรอยโรคที่เรียงดูเหมือนคล้ายต้นคริสต์มาส ("Christmas tree" pattern) อาการสำคัญของโรคนี้ คือ อาการคัน ผู้ป่วยบางคนยิ่งร้อน ยิ่งเหงื่อออกมากจะยิ่งคันมาก ในบางรายอาจมีไข้และอ่อนเพลีย ผื่นนี้จะค่อยๆจางลง และ หายไปได้เองภายใน 6-12 สัปดาห์ และเมื่อเป็นครั้งหนึ่งแล้วก็มักจะไม่เป็นอีก ติดต่อโดยการสัมผัส โรคนี้มักหายได้เอง ไม่รุนแรง
รอยผื่นจะมีรูปรี ๆ และส่วนยาวจะขนานไปกับเส้นแยกของผิวหนังที่มักนิยมเรียกรอยโรคที่เรียงดูเหมือนคล้ายต้นคริสต์มาส ("Christmas tree" pattern)
การวินิจฉัยควรตรวจรักษาโดยคุณหมอผิวหนังครับ ในวัยรุ่นหรือในผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงจะต้องแยกโรคจากผื่นจากซิฟิลิสระยะที่ 2 จึงจำเป็นต้องตรวจเลือดดูว่าบวกหรือไม่เพื่อความแน่นอน
การรักษาโรคกลีบกุหลาบ
โรคนี้ไม่ใช่โรคร้ายแรงและอาการมักดีขึ้นเอง ผู้ป่วยแน่ใจสบายใจได้เลยครับว่าว่าโรคนี้จะทุเลาลงไปได้เอง ไม่มีการรักษาที่เฉพาะ แต่เรามักแนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการถูกน้ำ ห้ามอาบน้ำร้อนจัดหรือห้ามอาบน้ำอุ่นเด็ดขาด การมีเหงื่อออกและการสัมผัสสบู่ เพราะมักทำให้ผิวระคายเคือง และโรคมีอาการกำเริบ จะทำให้ผิวคุณจะยิ่งแห้งและคันมากขึ้น
ยาที่ใช้ในโรคกลีบกุหลาบ
- กลุ่มแรกเป็นยาเพื่อบำบัดอาการคัน ได้แก่ ยากลุ่มสตีรอยด์ในรูปยากิน คือ prednisolone ขนาดยา 5-60 มก./วัน วันละครั้ง หรือแบ่งขนาดยาเป็นวันละ 2-4 ครั้ง เมื่ออาการดีขึ้นให้ลดยา จนหมดในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์. ข้อควรระวังคือห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ ส่วนในรูปยาทา อาจให้ยาทา zinc oxide และ calamine lotion หรือสเตียรอยด์ทาเช่น hydrocortisone เพื่อลดอาการคันในบริเวณที่เป็นวันละ 2-4 ครั้ง แต่ตัวหลังนี่ ควรระวังถ้าทาเป็นบริเวณกว้างมาก
- ยากลุ่มปฏิชีวนะ คือ erythromycin ขนาดยาในผู้ใหญ่ 250 มก. ทุก 6 ชั่วโมง ก่อนอาหาร หรือ 500 มก.ทุก 12 ชั่วโมง
- ยากลุ่มต้านไวรัส ในรูปยากิน คือ acyclovir ขนาดยาในผู้ใหญ่ 800 มก. วันละ 5 ครั้ง ในเด็กขนาดยา 10-20 มก./กก. ทุก 6 ชั่วโมง นาน 5-10 วัน
- สุดท้ายในบางรายหมออาจให้การฉายแสง โดยฉายรังสียูวีบี (UV-B light therapy) อาจลดอาการคันได้
น้องผมก็เป็น
ตอบลบเราเคยเป็น ช่วงอายุ22-23หมอให้ไปตากแดดแล้วก็มียาทา
ตอบลบ