เมื่อปัญหาของโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายคุกคามคุณ (เช่น : โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ, โรคเส้นเลือดในสมองตีบ, คลอเรสเตอรอลสูง, ความดันสูง, โรคไขมันเกาะตับ, โรคไขมันเกาะไต, ไขมันในหลอดเลือดสูง, โรคตับ, ตับอักเสบ, ไตอักเสบ, โรคหอบหืด, โรคลมชัก, โรค SLE, โรคไขข้อ, โรค Bechet, โรคผิวหนังอักเสบแพ้ง่าย, โรคไขข้อ, วัยทอง, ปวดประจำเดือน, มีถุงน้ำที่เต้านม รังไข่, มีบุตรยาก, อ้วน, โรคไทยรอยด์, อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า, ต่อมลูกหมากโต, โรคเบาหวาน, เอดส์ (AIDS) หรือ HIV, โรคพุ่มพวง หรือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง, อัมพาต อัมพฤกษ์, โรคเก๊า, โรคสะเก็ดเงิน, โรคเรื้อนกวาง, โรคภูมิแพ้, Sex เสื่อม, หย่อนสมรรถภาพทางเพศ, เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ) เรามีคำตอบให้คุณ ว่าต้องทำอย่างไร จึงจะสามารถอยู่กับโรคเหล่านี้ได้อย่ามีความสุข

Note:
อาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค อาหารเสริมเพียงช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตอยู่กับโรคที่เป็นอยู่ได้อย่างมีความสุข และ มีสุขภาพแข็งแรง

.

.

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

โรคกลีบกุหลาบ (pityriasis rosea) คืออะไร?

โรคกลีบกุหลาบมันเป็นยังไง

ภาพประกอบจาก Internet

โรคนี้มีชื่อเรียกว่า pityriasis rosea บางคนเรียกผื่นกุหลาบ สะเก็ดกุหลาบ กลีบกุหลาบ หัดดอกกุหลาบ โรคขุยกุหลาบหรือเรียกว่าหัด 100วัน ก้อมี เป็นอีกโรคที่พบได้บ่อย พบมากที่สุดในช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ พบได้เท่าๆ กันในทั้งหญิงและชายแต่อาจพบในหญิงสูงกว่าชายเล็กน้อย โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดตอนนี้ที่ทราบได้สาเหตุน่าจะเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า pityriasis rosea มาจากลักษณะของผื่น คือ pityriasis หมายถึงขุยบางๆ (fine scales) และ rosea แปลว่า สีดอกกุหลาบหรือสีชมพู แต่เนื่องจากลักษณะผื่นและสีที่ปรากฎ มักพบได้เป็นวงรีหรือวงกลมรูปไข่ จึงอาจเรียกว่า โรคกลีบกุหลาบ

อาการอย่างไรที่เรียกว่า โรคกลีบกุหลาบ
โรคกลีบกุหลาบ (pityriasis rosea, PR) เป็นโรคผิวหนังที่มีผื่นลักษณะเฉพาะ และมีอาการเฉียบพลัน เริ่มแรกคนไข้จะเริ่มสังเกตตนเอง พบว่ามีผื่นคันขนาดประมาณ 2-6 เซนติเมตร สีชมพูหรือสีน้ำตาล มีขุย ครั้งแรกมักจะเป็นปื้นโดดๆ ที่ผิวหนังบริเวณใดก็ได้ของร่างกาย แต่พบได้บ่อยที่ตามหน้าอกหรือหลัง เรียกว่าผื่นแจ้งข่าวเกิดขึ้นนำมาก่อน

ต่อมาอีกหลายวัน จะเกิดผื่นเป็นปื้นที่มีสะเก็ดเป็นขุยๆ ตามมา ส่วนมากมักพบได้ในบริเวณ ที่ปกคลุมด้วยเสื้อผ้า ผื่นจะมีรูปรีๆ และส่วนยาวจะขนานไปกับ เส้นแยกของผิวหนัง ที่มักนิยมเรียกรอยโรคที่เรียงดูเหมือนคล้ายต้นคริสต์มาส ("Christmas tree" pattern) อาการสำคัญของโรคนี้ คือ อาการคัน ผู้ป่วยบางคนยิ่งร้อน ยิ่งเหงื่อออกมากจะยิ่งคันมาก ในบางรายอาจมีไข้และอ่อนเพลีย ผื่นนี้จะค่อยๆจางลง และ หายไปได้เองภายใน 6-12 สัปดาห์ และเมื่อเป็นครั้งหนึ่งแล้วก็มักจะไม่เป็นอีก ติดต่อโดยการสัมผัส โรคนี้มักหายได้เอง ไม่รุนแรง

รอยผื่นจะมีรูปรี ๆ และส่วนยาวจะขนานไปกับเส้นแยกของผิวหนังที่มักนิยมเรียกรอยโรคที่เรียงดูเหมือนคล้ายต้นคริสต์มาส ("Christmas tree" pattern)

การวินิจฉัยควรตรวจรักษาโดยคุณหมอผิวหนังครับ ในวัยรุ่นหรือในผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงจะต้องแยกโรคจากผื่นจากซิฟิลิสระยะที่ 2 จึงจำเป็นต้องตรวจเลือดดูว่าบวกหรือไม่เพื่อความแน่นอน

การรักษาโรคกลีบกุหลาบ
โรคนี้ไม่ใช่โรคร้ายแรงและอาการมักดีขึ้นเอง ผู้ป่วยแน่ใจสบายใจได้เลยครับว่าว่าโรคนี้จะทุเลาลงไปได้เอง ไม่มีการรักษาที่เฉพาะ แต่เรามักแนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการถูกน้ำ ห้ามอาบน้ำร้อนจัดหรือห้ามอาบน้ำอุ่นเด็ดขาด การมีเหงื่อออกและการสัมผัสสบู่ เพราะมักทำให้ผิวระคายเคือง และโรคมีอาการกำเริบ จะทำให้ผิวคุณจะยิ่งแห้งและคันมากขึ้น

ยาที่ใช้ในโรคกลีบกุหลาบ
  1. กลุ่มแรกเป็นยาเพื่อบำบัดอาการคัน ได้แก่ ยากลุ่มสตีรอยด์ในรูปยากิน คือ prednisolone ขนาดยา 5-60 มก./วัน วันละครั้ง หรือแบ่งขนาดยาเป็นวันละ 2-4 ครั้ง เมื่ออาการดีขึ้นให้ลดยา จนหมดในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์. ข้อควรระวังคือห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ ส่วนในรูปยาทา อาจให้ยาทา zinc oxide และ calamine lotion หรือสเตียรอยด์ทาเช่น hydrocortisone เพื่อลดอาการคันในบริเวณที่เป็นวันละ 2-4 ครั้ง แต่ตัวหลังนี่ ควรระวังถ้าทาเป็นบริเวณกว้างมาก
  2. ยากลุ่มปฏิชีวนะ คือ erythromycin ขนาดยาในผู้ใหญ่ 250 มก. ทุก 6 ชั่วโมง ก่อนอาหาร หรือ 500 มก.ทุก 12 ชั่วโมง
  3. ยากลุ่มต้านไวรัส ในรูปยากิน คือ acyclovir ขนาดยาในผู้ใหญ่ 800 มก. วันละ 5 ครั้ง ในเด็กขนาดยา 10-20 มก./กก. ทุก 6 ชั่วโมง นาน 5-10 วัน
  4. สุดท้ายในบางรายหมออาจให้การฉายแสง โดยฉายรังสียูวีบี (UV-B light therapy) อาจลดอาการคันได้
ที่มา : โรคกลีบกุหลาบ มันเป็นยังไงเหรอ โดย เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล


2 ความคิดเห็น:

.

.