เมื่อปัญหาของโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายคุกคามคุณ (เช่น : โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ, โรคเส้นเลือดในสมองตีบ, คลอเรสเตอรอลสูง, ความดันสูง, โรคไขมันเกาะตับ, โรคไขมันเกาะไต, ไขมันในหลอดเลือดสูง, โรคตับ, ตับอักเสบ, ไตอักเสบ, โรคหอบหืด, โรคลมชัก, โรค SLE, โรคไขข้อ, โรค Bechet, โรคผิวหนังอักเสบแพ้ง่าย, โรคไขข้อ, วัยทอง, ปวดประจำเดือน, มีถุงน้ำที่เต้านม รังไข่, มีบุตรยาก, อ้วน, โรคไทยรอยด์, อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า, ต่อมลูกหมากโต, โรคเบาหวาน, เอดส์ (AIDS) หรือ HIV, โรคพุ่มพวง หรือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง, อัมพาต อัมพฤกษ์, โรคเก๊า, โรคสะเก็ดเงิน, โรคเรื้อนกวาง, โรคภูมิแพ้, Sex เสื่อม, หย่อนสมรรถภาพทางเพศ, เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ) เรามีคำตอบให้คุณ ว่าต้องทำอย่างไร จึงจะสามารถอยู่กับโรคเหล่านี้ได้อย่ามีความสุข

Note:
อาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค อาหารเสริมเพียงช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตอยู่กับโรคที่เป็นอยู่ได้อย่างมีความสุข และ มีสุขภาพแข็งแรง

.

.

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

"ชะลอวัยด้วย เวชศาสตร์อายุรวัฒน์"

เวชศาสตร์อายุรวัฒน์ (Anti – aging medicine) คือ ศาสตร์การชะลอวัย ศาสตร์แห่งการป้องกันโรค และทำให้อายุขัยของมนุษย์ยืนยาวขึ้น จากการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ในการบำบัดรักษาโรค เพื่อสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการมีอายุยืน พร้อมกับการมีสุขภาพที่ดี ที่ไม่ใช่แค่การยืนอายุจากภายนอกด้วยการทำศัลยกรรม แต่คือการปรับ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และดูแลตัวเอง เพื่อสุขภาพที่ดีและยืนยาว บุคคลที่ทำให้คนไทยเราเริ่มรู้จักศาสตร์แห่งการชะลอวัยนั้น ไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือ นพ.กฤษฎา ศิรามพุช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ เป็นบุคคลแรก ๆ ที่นำศาสตร์การแพทย์ตะวันตกนี้เข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทย ในต่างประเทศได้มีการศึกษากันมานานแล้ว เกี่ยวกับต้นตอของสิ่งที่เป็นหน่วยพื้นฐานของมนุษย์ นั่นคือระดับเซลล์ เนื่องจากเซลล์เป็นหน่วยพื้นฐานของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะและอวัยวะทำงานร่วมกันเป็นระบบ หลายระบบรวมกันเป็นร่างกายของสิ่งมีชีวิต ดังนั้นหากเราทำให้มีสุขภาพดีได้ตั้งแต่ระดับเซลล์แล้วร่างกายก็จะแข็งแรงสมบูรณ์ เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงได้เริ่มมีการศึกษาอย่างจริงจัง โดยมุ่งเน้นไปที่การนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนการตรวจบำบัดรักษาโรค ที่เรียกว่าเทคโนโลยีชีวภาพ (biomedical technology) ไม่ว่าจะเป็นการบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิดและยีนบำบัด (stem cell and gene therapy) ที่มีบางแห่งได้เริ่มทดลองใช้แล้วหรือแม้แต่มีการเปิดธนาคารเก็บสเต็มเซลล์ด้วยซ้ำไป นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับรักษาโรค เช่น การโคลนนิ่งเพื่อการรักษา (Therapeutic cloning) นาโนเทคโนโลยีและเวชศาสตร์นาโน (Nanotechnology and nano medicine) เพื่อใช้ในการวินิจัยและรักษาโรคได้ในระดับเซลล์

เวชศาสตร์เพื่อการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย รวมถึงการเปลี่ยนอวัยวะเทียมที่เข้ากับร่างกายได้เป็นอย่างดี ไม่ให้เกิดเน่าหรือเกิดการปฏิเสธของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และเทคโนโลยีเรื่องของโภชนาการ ฮอร์โมน และวิตามินต่าง ๆ

แปลง่าย ๆ คือเมื่อเรารู้ว่าเซลล์ส่วนไหนของร่างกายเราเสื่อม เราก็มุ่งเน้นไปที่การรักษาบำบัดเพื่อให้เซลล์ร่างกายส่วนนั้นสามารถกลับมาทำงานได้ดีดังเดิมนั่นเอง

แม้ขณะนี้เทคโนโลยีที่กล่าวมาทั้งหมด ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ไม่มีอะไรที่เกินความพยายามของมนุษย์ และในปัจจุบันเริ่มมีการนำเอาวิทยาการเหล่านี้ออกมาใช้บ้างแล้ว

แต่หากเราคิดแต่จะพึ่งพาวิทยาการเทคโนโลยีล้ำสมัยเพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถช่วยยืดอายุเราออกไปอย่างผู้มีสุขภาพดีได้ เราจะต้องชะลอวัยด้วยตัวเองควบคู่กันไปด้วย โดยทำได้ดังนี้
  • ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ เป็นการเช็คร่างกายว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่
  • การจำกัดแคลอรี่ โดยการทานอาหารอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอาหารต้านชรานั้นมีอยู่ในสารพฤกษเคมีซึ่งมีอยู่ในพืชผักนานาชนิด ที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และเส้นใยซึ่งจะทำให้เราไม่อ้วน ไม่แก่เร็ว และไม่เกิดโรค
  • การดำเนินชีวิตที่เหมาะสม เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลดพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้ร่างกายทรุดโทรม อันเป็นการก่อสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสารอนุมูลอิสระเหล่านี้เป็นตัวการที่ทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพและสาเหตุของความชราเร็วกว่ากำหนด เช่น การนอนดึก ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เป็นต้น
  • เรื่องของจิตใจ ต้องฝึกมองโลกในแง่ดี ทำจิตใจให้สงบ ไม่อารมณ์ฉุนเฉียว มีการศึกษาพบว่าหากเรามีความสุขจิตใจสงบ จะมีการหลั่งสารแห่งความสุขออกมา ทำให้ระบบในร่างกายจะทำงานเป็นอย่างปกติ ตรงกันข้ามกับคนที่มีความเครียดสูง หรืออารมณ์ฉุนเฉียวง่าย ทำให้ใบหน้ามีริ้วรอย และเจ็บป่วยทางร่างกายง่าย ๆ ยกตัวอย่าง เช่น คนเป็นโรคกระเพาะเนื่องจากความเครียด ป่วยเป็นไมเกรนเพราะเครียดจัด เป็นต้น
เราไม่อาจปฏิเสธความแก่ชราที่เข้ามาเยือนในทุก ๆ วันได้ แต่เราสามารถชะลอมันออกไปได้ โดยเริ่มต้นจากตัวเราเอง ดูแลตัวเองซะตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป

ที่มา :  "ชะลอวัยด้วย เวชศาสตร์อายุรวัฒน์"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

.

.