เมื่อปัญหาของโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายคุกคามคุณ (เช่น : โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ, โรคเส้นเลือดในสมองตีบ, คลอเรสเตอรอลสูง, ความดันสูง, โรคไขมันเกาะตับ, โรคไขมันเกาะไต, ไขมันในหลอดเลือดสูง, โรคตับ, ตับอักเสบ, ไตอักเสบ, โรคหอบหืด, โรคลมชัก, โรค SLE, โรคไขข้อ, โรค Bechet, โรคผิวหนังอักเสบแพ้ง่าย, โรคไขข้อ, วัยทอง, ปวดประจำเดือน, มีถุงน้ำที่เต้านม รังไข่, มีบุตรยาก, อ้วน, โรคไทยรอยด์, อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า, ต่อมลูกหมากโต, โรคเบาหวาน, เอดส์ (AIDS) หรือ HIV, โรคพุ่มพวง หรือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง, อัมพาต อัมพฤกษ์, โรคเก๊า, โรคสะเก็ดเงิน, โรคเรื้อนกวาง, โรคภูมิแพ้, Sex เสื่อม, หย่อนสมรรถภาพทางเพศ, เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ ฯลฯ) เรามีคำตอบให้คุณ ว่าต้องทำอย่างไร จึงจะสามารถอยู่กับโรคเหล่านี้ได้อย่ามีความสุข

Note:
อาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค อาหารเสริมเพียงช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตอยู่กับโรคที่เป็นอยู่ได้อย่างมีความสุข และ มีสุขภาพแข็งแรง

.

.

วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

โรคต่อมลูกหมากโตคืออะไร?

"ต่อมลูกหมาก" เป็นต่อมสร้างน้ำเลี้ยงเชื้ออสุจิ (Semen) ในผู้ชาย ลักษณะเป็นของเหลวสีคล้ายน้ำนมที่ช่วยหล่อเลี้ยงและขนส่งเชื้ออสุจิในระยะที่มีการหลั่งน้ำอสุจิ (Ejaculation) อยู่ในตำแหน่งบริเวณคอของกระเพาะปัสสาวะ (Bladder) โดยรอบท่อปัสสาวะ (Urethra) ส่วนต้นของผู้ชาย หรืออยู่ใต้หัวเหน่าบริเวณโคนอวัยวะเพศ (Penis) มีขนาด 18 - 20 กรัม ซึ่งชาวตะวันตกมักเปรียบเทียบขนาดปกติของต่อมลูกหมากที่จะโตเต็มที่ในวัยหนุ่มคือ 25 ปีขึ้นไปว่ามีขนาดเท่ากับขนาดของผลวอลนัท (watnut-size) หรือลูกกอล์ฟ โดยแรกเกิดจะมีขนาดประมาณเม็ดถั่ว แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นก็จะมีขนาดโตขึ้น โดยเฉพาะเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะยิ่งเด่นชัดขึ้นและในบางรายอาจเกิดปัญหากับการขับถ่ายปัสสาวะ

หน้าที่ของต่อมลูกหมาก
ต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะที่ประกอบด้วย กล้ามเนื้อบางส่วน และ บางส่วนเป็นต่อม (partly muscular and partly glandular) ซึ่งมีอยุ่ 3 ส่วนหรือ 3 กลีบประกอบกันขึ้นมา คือ ส่วนปลาย/peripheral, ส่วน transitional และส่วนกลาง/central ซึ่งส่วนกลางนี้มักจะเป็นส่วนที่โตขึ้นในรายที่มีอาการของต่อมลูกหมากโตที่ไม่ใช่มะเร็ง (Benign Prostatic Hypertrophy or Hyperplasia หรือ BPH)



ในระยะก่อนการหลั่งน้ำอสุจิ มีต่อมอีกอันหนึ่งคือ Cowper's gland หรือที่เรียกกันว่า Bulbourethral gland (ตามภาพ) ซึ่งจะสร้างของเหลวที่เป็นสารอัลคาลายน์ (Alkaline fluid) ซึ่งจะช่วยทำให้ปัสสาวะที่หลงเหลืออยู่ในท่อปัสสาวะมีคุณสมบัติเป็นกลาง (neutralizes) จากเดิมที่มีสภาพเป็นกรด (acid) เพื่อให้สภาพแวดล้อมที่เป็นกลางในท่อปัสสาวะช่วยปกป้องอสุจิ และสารนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยในการหล่อลื่น (Lubricant) ตัวอสุจิด้วย (น่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดการตั้งครรภ์ได้แม้ฝ่ายชายจะไม่ได้หลั่งน้ำอสจิในขณะมีเพศสัมพันธ์) ซึ่งต่อมนี้ยังทำหน้าที่ต่อไปได้แม้ในรายที่ทำผ่าตัดต่อมลูกหมากออกไปแล้ว (แพทย์อาจจะเก็บต่อมนี้ไว้ในการผ่าตัดเอาต่อมลูกหมากออกที่เรียกว่า Prostectomy) ผู้ที่ตัดเอาเฉพาะต่อมลูกหมากออก ในระยะที่มีการกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกทางเพศ จะมีการหลั่งสารเหลวจากต่อมนี้ได้ แม้จะไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิ (Ejaculation)

ต่อมลูกหมากทำหน้าที่หลักในการสร้างสารประกอบของน้ำอสุจิ คือสารอัลคาลายน์ (Alkaline fluid) ที่เป็นของเหลวสีคล้ายน้ำนมดังกล่าว มีปริมาณประมาณ 30% ของน้ำอสุจิ โดยสร้างสารเคมีและอาหารสำคัญบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของตัวอสุจิในผู้ชาย (ต่อมลูกหมากนี้ไม่ได้สร้างตัวอสุจิเอง ตัวอสุจิหรือเสปอร์มนั้นมีกำเนิดมาจากเซลล์ของลูกอัณฑะเท่านั้น) ช่วยนำพาอสุจิและทำให้การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิเป็นไปได้ง่ายโดยการหล่อลื่นของสารเหลวดังกล่าว ช่วยตอบสนองต่อการกระตุ้นโดยระบบประสาทอัตโนมัติ และฮอร์โมนเพศชาย ทั้งยังเชื่อว่าเป็นตัวกระตุ้นการเกิดลักษณะทางเพศของผู้ชาย (Secondary sex characteristics) เช่น มีขน เสียงเหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไป รวมทั้งช่วยควบคุมการไหลของปัสสาวะด้วย

ภาพผลการตรวจต่อมลูกหมากปกติด้วยคลื่นแม่เหล็ก (MRI of the Prostate - normal exam)
ภาพมองจากปลายเท้าผู้ถูกตรวจไปหาศีรษะ
(จุด A: สะโพกขวา/right hip, จุด B: กระเพาะปัสสาวะ/bladder, จุด C: สะโพกซ้าย/left hip, จุด D:ต่อมลูกหมาก prostate gland และจุด E: ทวารหนัก/rectum)

ต่อมลูกหมากจะโตขึ้นตามวัย และโตมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีอายุมากขึ้น โดยในชายวัย 45 ปีขึ้นไปพบได้มากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่เซลล์บริเวณนั้นจะเจริญโตขึ้นรวดเร็ว จะพบว่าต่อมลูกหมากที่โตขึ้นนี้จะเริ่มอุดตันหลอดปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการปัสสาวะลำบาก และการอุดตันทำให้ปัสสาวะคั้งค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะมากกว่าปกติ จะสังเกตได้ว่ามักจะเกิดในผู้ชายวัยเกิน 60 ปีขึ้นไป ซึ่งถ้าปล่อยไว้อาจโตมากจนปัสสาวะไม่ออก จนเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุเหล่านั้นได้

ต่อมลูกหมากโตเป็นโรคเดียวกับมะเร็งต่อมลูกหมากหรือไม่
ต่อมลูกหมากโตเป็นเพียงมีเซลล์เพิ่มขึ้นไม่ใช่มะเร็งต่อมลูกหมาก ผู้ป่วยส่วนมากแม้จะมีต่อมลูกหมากโตแต่ก็ไม่มีอาการ

ผู้ป่วยต่อมลูกหมากโตจะมีอาการอะไรบ้าง
อาการของต่อมลูกหมากโตเกิดจากต่อมลูกหมากโตกดท่อปัสสาวะทำให้ท่อปัสสาวะแคบ ระยะแรกของโรคกระเพาะปัสสาวะยังแข็งแรงสามารถบีบตัวไล่ปัสสาวะออกได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกระเพาะปัสสาวะอ่อนแรงไม่สามารถบีบตัวไล่ปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการปัสสาวะสะดุด ผู้ป่วยบางคนอาจจะไม่มีอาการจนได้รับประทานยาแก้หวัด ผลข้างเคียงของยาแก้หวัดทำให้เกิดอาการปัสสาวะไม่อก อาการที่พบได้บ่อยคือ
  • ปัสสาวะไม่สุดเหมือนคนที่ยังไม่ได้ปัสสาวะ
  • ปัสสาวะบ่อย
  • ปัสสาวะสะดุดขณะปัสสาวะ
  • อั้นปัสสาวะไม่อยู่
  • ปัสสาวะไม่พุ่ง
  • ปัสสาวะต้องเบ่งเมื่อเริ่มปัสสาวะ
  • ต้องตื่นกลางคืนเนื่องจากปวดปัสสาวะ
ถ้าหากผู้ป่วยยังไม่รักษาก็อาจจะเกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้แก่ กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไม่ดีเกิดการคั่งของปัสสาวะและเกิดการติดเชื้อได้ง่าย ไตเสื่อม กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะเล็ด นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

การวินิจฉัยโรคต่อมลูกหมากโต
เมื่อผู้ป่วยที่สงสัยว่าต่อมลูกหมากโตไปพบแพทย์แพทย์จะถามประวัติเพื่อประเมินความรุนแรงของต่อมลูกหมาก
  • ซักประวัติเกี่ยวกับโรคทั่วไป
  • ตรวจร่างกายทั่วไป
  • ตรวจต่อมลูกหมากโดยการตรวจทางทวารหนัก
  • ตรวจปัสสาวะเพื่อหาว่ามีเลือดหรือการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  • ตรวจเลือดเพื่อประเมินการทำงานของไตและตรวจ Prostate-specific antigen (PSA) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ผลิตจากต่อมลูกหมากค่านี้จะสูงในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • การตรวจส่องกล้อง cystoscope เพื่อดูต่อมลูกหมาก กระเพาะปัสสาวะเป็นการตรวจที่ไดข้อมูลมาก
  • การตรวจ x-ray เรียก urogramหรือ IVP [ intravenous pyelography] โดยการฉีดสีเข้าหลอดเลือดดำ และเมื่อสีขับเข้ากระเพาะปัสสาวะแพทย์จะสามารถเห็นตำแหน่งและความรุนแรงของการอุดกลั้นปัสสาวะ
  • การตรวจ ultrasound สามารถเห็นต่อมลูกหมาก ไต และกระเพาะปัสสาวะโดยทำผ่านทางทวารหนัก
  • การตรวจ Uroflowmetry เพื่อดูว่าทางเดินปัสสาวะถูกอุดมากน้อยแค่ไหน
การบริโภคเพื่อลดเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
จากงานวิจัยพบว่า พฤติกรรมบริโภคที่ไม่ดี อาจนำไปสู่สาเหตุการเป็นมะเร็งในต่อมลูกหมากได้ มีรายงานการวิจัยว่า แม้ผู้ชายที่เป็นมะเร็งในต่อมลูกหมากก็สามารถที่จะลดความเสี่ยงการตายจากโรค นี้ โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคดังต่อไปนี้
  • ลดอาหารไขมันสูง ไขมัน อาจเร่งให้เซลล์มะเร็งเจริญได้ดี และไขมันทำให้ระดับฮอร์โมนเพศสูง ซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งในต่อมลูกหมาก กรดไขมันอิ่มตัวเป็นอันตรายอันดับ 1 พบในไขมันสัตว์และกะทิ ส่วนกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีมากในปลาทะเล ปลาน้ำจืดบางชนิด เช่น ปลาช่อน รวม ทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วลิสง) เป็นกรดไขมันจำเป็นที่ให้ผลในการป้องกันทั้งโรคหัวใจและโรคมะเร็ง 
  • จำกัดอาหารประเภทเนื้อแดง ใน เนื้อแดง (เนื้อสัตว์ใหญ่) จะมีไขมันแทรกอยู่มาก ทำให้ได้รับไขมันเพิ่มขึ้นด้วย โดยอาจเลือกรับประทานโปรตีนจากถั่วเหลืองแทนจะดีกว่า ในรูปเต้าหู้ แป้งถั่วเหลือง และนมถั่วเหลือง สามารถชะลอความรุนแรงของมะเร็งในต่อมลูกหมากได้ เพราะถั่วเหลืองมีฮอร์โมนพืชที่เรียกว่าไฟโตเอสโตรเจน 
  • กินผัก ผลไม้ มากขึ้นโดยเฉพาะมะเขือเทศ ผัก ผลไม้ ช่วยในการป้องกันมะเร็ง โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ที่อุดมไปด้วยสารแคโรทีนอยด์ (สีเขียวจัด แดง เหลือง และส้ม) ธัญพืชและถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ มีสารไอโซเฟลโวนอยด์สูง และอาจมีผลต่อการลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนี้ผัก ผลไม้ ยังมีวิตามินซี และเส้นใยอาหารช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่และโรคหัวใจอีกด้วย สาร ไลโคพีนเป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ที่ช่วยในการป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก ด้วยการชะลอการเจริญของเซลล์มะเร็ง มีมากในผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ เช่น ซอสมะเขือเทศ ซุปมะเขือเทศ และน้ำมะเขือเทศ ความร้อนจะทำให้สารไลโคพีนถูกปลดปล่อยจากผนังเซลล์มากขึ้น ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น 
  • กินอาหารที่มีวิตามินดีสูง ผู้ชาย ที่อยู่ในบริเวณที่มีแสงแดดน้อย มีโอกาสเกิดมะเร็งในต่อมลูกหมากสูง เพราะแสงแดดช่วยสร้างวิตามินดีในผิวหนังคนเรา แต่คนไทยเรานั้นได้รับแสงแดดเหลือเฟือ ปัจจัยข้อนี้จึงไม่น่ากังวล แต่ ในคนสูงอายุที่ประสิทธิภาพการสร้างวิตามินดีลดลง อาจเพิ่มอาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น นม โดยแนะนำให้เลือกนมพร่องมันเนยหรือนมขาดไขมัน 
  • เน้นอาหารที่มีสารซีลีเนียมและวิตามินอี ซีลีเนียม มีผลมากต่อการป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมา พบมากในเมล็ดพืชต่างๆ เห็ด ธัญพืชไม่ขัดสี เมล็ดดอกทานตะวัน จมูกข้าวสาลี อาหารทะเล สัตว์ปีก ไข่ และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน วิตามินอีช่วยทำลายเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก แต่การที่ร่างกายจะดูดซึมวิตามินอีจากอาหารอย่างเดียวในปริมาณสูงค่อนข้างยาก ฉะนั้นการเสริมวิตามินอีวันละ <400 ไอยู อาจเป็นอีกทางเลือกที่จะต้องพิจารณา วิตามินอีพบในน้ำมันพืช ถั่วเปลือกแข็ง และผักใบเขียวจัด
ผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยเป็นโรคต่อมลูกหมากโต มีสุขภาพดี และ ร่างกายแข็งแรง



ไลฟ์แพ็ก (LifePak) ทีกรีน97 (TeGreen97) ริชิเอ็มเอ็กซ์ (ReishiMx)


ที่มาบางส่วนจาก : ต่อมลูกหมาก (Prostate Gland), ต่อมลูกหมากโต Benigh prostatic hypertrophy

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

.

.