ปีหนึ่งๆ คนไทยตาย 7 คนต่อชั่วโมง* ด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะโคเลสเตอรอลในหลอดเลือดสูง คือหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหลอดเลือดหัวใจ - โรคที่กำลังเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของคนไทย
โคเลสเตอรอลคืออะไร?
โคเลสเตอรอล คือ สารไขมันคล้ายขี้ผึ้งที่ปรากฏอยู่ในทุกเซลล์ของร่างกาย โคเลสเตอรอลบางชนิดจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายโดยทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบ ของผนังเซลล์ในร่างกาย และเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮอร์โมนบางชนิดที่จำเป็นของร่างกาย
ไขมันในเส้นเลือดมีกี่ชนิด?
มี 3 ชนิด คือ
- แอล ดี แอล โคเลสเตอรอล (LDL Cholesterol) เปรียบเสมือน "ตัวผู้ร้าย" ถ้ามีปริมาณมากจะสะสมอยู่ในหลอดเลือดแดงเป็นต้นเหตุของโรคหลอดเลือดแดงแข็ง ยิ่งระดับแอล ดี แอล โคเลสเตอรอลสูงมากเท่าไหร่ อัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
- เอช ดี แอล โคเลสเตอรอล (HDL Cholesterol) เปรียบเสมือน "ตำรวจ" คอยจับผู้ร้าย เพราะเป็นตัวกำจัดแอล ดี แอล โคเลสเตอรอล ออกจากหลอดเลือดแดง การมีระดับเอช ดี แอล โคเลสเตอรอลสูง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Heart Disease)
- ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride หรือ TRG) เป็นไขมันอีกประเภทหนึ่งในกระแสเลือด เปรียบเสมือน "ผู้ช่วยผู้ร้าย" คนที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์สูง พร้อมกับระดับเอช ดี แอล โคเลสเตอรอลต่ำ หรือ แอล ดี แอล โคเลสเตอรอลสูง ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
- จากตับของร่างกายเราสร้างขึ้น โดยทั่วไปตับจะทำหน้าที่สร้างโคเลสเตอรอลได้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
- จากอาหารที่รับประทานเข้าไป ถ้ารับประทานอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูงเป็นนิสัย ก็อาจเกิดโทษต่อ สุขภาพได้จากโคเลสเตอรอลส่วนเกินที่สะสมอยู่ในร่างกายโดยเฉพาะในหลอดเลือด
- พฤติกรรมการบริโภค
- ขาดการออกกำลังกาย
- กรรมพันธุ์
- โรคเบาหวาน
ปรกติหลอดเลือดจะมีผิวเรียบลื่นสม่ำเสมอ แต่เมื่อมี แอล ดี แอล โคเลสเตอรอล มาจับที่ผนังหลอดเลือดจนพอกหนา เรียกส่วนนี้ว่า พลัค (plaque) การก่อตัวของพลัคทำให้หลอดเลือดตีบลง ดังนั้นหัวใจจึงต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อดันให้เลือดเคลื่อนที่ผ่านไปได้ พลัคสามารถขวางกั้นระบบไหลเวียนเลือดในเส้นเลือด และยังสามารถแตกตัวออกมาทำให้เกิดก้อนเลือดแข็งตัว และเมื่อมันเกิดขึ้นในเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ หรือสมอง จะทำให้อวัยวะส่วนนั้นขาดเลือด เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด หรืออัมพาตจากสมองขาดเลือด
แค่ไหนถึงจัดว่าโคเลสเตอรอลสูง?
วิธีดูว่าใครมีโคเลสเตอรอลสูง ทางการแพทย์จะเทียบกับค่าระดับ แอล ดี แอล โคเลสเตอรอล ที่พึงปรารถนา ซึ่งค่าดังกล่าวขึ้นกับว่าเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือเป็นโรคเบาหวาน หรือไม่ ถ้ายังไม่เป็นโรคดังกล่าว ปัจจัยเสื่ยงที่ต้องคำนึงในการจัดระดับแอล ดี แอล โคเลสเตอรอลที่พึงปรารถนามีอยู่ 6 ประการ
- อายุ : ชายเกิน 45 ปี, หญิงเกิน 55 ปี
- มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ก่อนวัยอันควร(ชายก่อนอายุ 55 ปี, หญิงก่อนอายุ 65 ปี)
- ความดันโลหิตสูง
- โรคเบาหวาน
- สูบบุหรี่
- ค่าเอช ดี แอล โคเลสเตอรอล น้อยกว่า 40 มก./ดล.
ชื่อ ค่าของแอล ดี แอล
แอล ดี แอล
- เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือเป็นโรคเบาหวาน ควรน้อยกว่า 100 มก./ดล.
- ไม่เป็นหลอดเลือดโรคหัวใจและโรคเบาหวาน
- ไม่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคเบาหวานและมีปัจจัยเสี่ยงน้อยกว่า 2 ข้อ ควรน้อยกว่า 160 มก./ดล.
- ควรน้อยกว่า 150 มก./ดล.
- เอช ดี แอล ควรมากกว่า 40 มก./ดล.
โคเลสเตอรอลสูงรักษาหายขาด หรือไม่?
โคเลสเตอรอลสูงไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ควบคุมได้ ระดับโคเลสเตอรอลจะค่อยๆ กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกหากหยุดการบำบัด
จะควบคุมระดับโคเลสเตอรอลสูงได้อย่างไร?
- ควบคุมอาหาร
- หลีกเลี่ยงอาหารพวกไข่แดง เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ส่วนที่ติดมันทุกชนิด สมองสัตว์ อาหารทะเลบางชนิด เช่น หอยนางรม ปลาหมึก
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมัน อาหารทอด เจียว ควรใช้น้ำมันพืชแทนน้ำมันสัตว์ เช่น เนย หรือ น้ำมันหมู น้ำมันพืชที่สกัดจากเมล็ดพืชจะมีกรดไลโนเลอิก (Linoleic acid ) ที่เป็นตัวนำ Cholesterol ไปเผาผลาญได้ดี
- ควรหลีกเลี่ยงน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันมะพร้าว หรือ กะทิ
- ควรดื่มนมพร่องมันเนยแทนนมที่มีไขมันเต็มส่วน
- พยายามเปลี่ยนแปลงการปรุงอาหารเป็น นึ่ง ต้ม ย่าง อบ แทนการทอด หรือผัด
- พยายามลดน้ำหนักตัวในกรณีที่มีน้ำหนักเกิน
- ควรเพิ่มอาหารพวกผักใบต่างๆ และผลไม้บางชนิดที่มีกากใย เช่น ผักคะน้า ผักกาด ฝรั่ง ส้ม ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไขมันน้อยลง
- ออกกำลังกายการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเพิ่มระดับเอช ดี แอล โคเลสเตอรอล ลดแอล ดี แอล โคเลสเตอรอล และ ไตรกลีเซอไรด์
ข้อแนะนำในการออกกำลังกายมีดังนี้- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
- ออกกำลังกายชนิดต่อเนื่อง ไม่วิ่งๆ หยุดๆ จะเป็นผลดีต่อหัวใจมากกว่า เช่น เต้นแอโรบิค, ว่ายน้ำ, ขี่จักรยาน ฯลฯ
- ออกกำลังกายแต่ละครั้งให้นานพอ และหนักพอ แต่อย่าหักโหมเกินกำลัง
- ใช้ยาช่วยลดระดับไขมันในเลือด
การควบคุมระดับโคเลสเตอรอลสูงอย่างปลอดภัย ควรจะอยู่ในความดูแลของแพทย์, กรณีที่การควบคุมอาหารและการออกกำลังกายไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ (ไม่ว่าจะเป็นเพราะผู้ป่วยขาดวินัย หรืออาจปฏิบัติเคร่งครัดแล้ว ระดับโคเลสเตอรอลก็ยังคงสูง) ก็จำเป็นที่จะต้องพิจารณาการใช้ยาลดระดับไขมันในเลือดร่วมด้วย ทั้งนี้ ต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์เป็นผู้สั่งการและติดตามรักษาต่อไป
เพื่อหลีกเลี่ยงให้ห่างจากโรคหลอดเลือดหัวใจที่สุด คุณควร
- หยุดสูบบุหรี่
- ควบคุมอาหารที่มีโคเลสเตอรอล (LDL-C) และไขมันอิ่มตัวสูง
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
- วัดความดันโลหิต, ตรวจเลือดหาภาวะเบาหวาน
- ตรวจระดับโคเลสเตอรอลทุกปี (อย่างน้อยปีละครั้ง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น